"แบดิง โกตาบารู"
“จุดคบไฟใต้”เริ่มเมื่อวันที่
4 มกราคม 2547 คือ “จุดกำเนิดความรุนแรง” ที่หล่อเลี้ยงสถานการณ์ตลอดระยะเวลา
13 ปีที่ผ่านมา จากสถิติความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการกระทำของกลุ่มที่นิยมความรุนแรงมีผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการก่อเหตุจำนวนมาก
ซึ่งในจำนวนนี้มีเด็กได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตรวม 961 คน และมีเด็กกำพร้าในและนอกพื้นที่กว่า
10,000 คน
การใช้ชีวิตประจำวันท่ามกลางความรุนแรง
และการสูญเสีย ส่งผลกระทบต่อเด็กเหล่านี้อย่างไร? หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
และคนในพื้นที่จะร่วมแก้ปัญหาหาทางออกแนวทางไหน? ในเมื่อความรุนแรงยังคงถูกยัดเยียดให้ประชาชนเป็นผู้รับกรรม
การสูญเสียที่ยังไม่ยุติ อนาคตผ้าขาวที่เปื้อนเลือดจะเป็นเช่นไร? หากกลุ่มโจรใต้ยังคงใช้ความรุนแรงยังเป็นทางออกของการปัญหาแทนการพูดคุย..
13 ปีไฟใต้
โรงเรียนยังคงถูกเผา และเด็กยังคงได้รับผลกระทบ ปฏิบัติการความรุนแรงในพื้นที่สาธารณะโดยไม่แยกแยะเป้าหมาย
สะท้อนว่า “เด็กยังคงถูกโอบล้อมด้วยความรุนแรงไม่รู้จบ!!”
แล้วเป็นฝีมือใครล่ะ!!
เจ้าหน้าที่รัฐหรือ!! ที่ทำการก่อเหตุ ทำการลอบระเบิด ลอบยิง เผาโรงเรียน ทำลายเสาไฟฟ้า
เสาสัญญาณโทรศัพท์ที่ผ่านมา...
การพูดคุยสันติสุขของกลุ่มคิดต่างจากรัฐ
โดยมีมาเลย์เป็นผู้อำนวยความสะดวก “การกำหนดพื้นที่ปลอดภัย” หรือ “เซฟตี้
โซน” กำลังเผชิญอุปสรรค หลังปรากฎกลุ่มโจรใต้ออกมาประกาศเรียกร้องรัฐบาลไทยให้มาเจรจาสันติภาพโดยตรงกับกลุ่มตน
แทนการเจรจากับกลุ่ม “มารา ปาตานี” และจะยิงประชาชนต่อไป
จนกว่ารัฐบาลไทยเจรจาสันติภาพ 2 ฝ่ายกับกลุ่มตนเท่านั้น...
ความรุนแรงที่เกิดขึ้นต่อผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมด
มีทั้งผู้ที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ บ้างต้องพิการแขนขาขาด
โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วย ถามว่าเกิดจากน้ำมือของใคร?
แต่เป็นที่น่าแปลกใจกลุ่มองค์กรภาคประชาสังคมที่เคลื่อนไหวในพื้นที่
จชต.ที่มีมากถึง 521 องค์กร กลับมากดดันรัฐ ตั้งคำถามกับรัฐ ส่วนราชการ
และคนในพื้นที่แก้ปัญหาอะไรอยู่? ท่ามกลางความรุนแรง...อยากถามกลับไปยังกลุ่ม
NGOs ตั้งองค์กรขึ้นมาหาพระแสงอะไร?
แทนที่จะกดดันโดดเดี่ยวกลุ่มโจรใต้
ช่วยกันประณามเปิดโปงความชั่วร้ายที่กระทำต่อผู้บริสุทธิ์ ซึ่งผลจากการก่อเหตุสร้างสถานการณ์
ฉุดให้เศรษฐกิจการค้าการลงทุนในพื้นที่ต้องชะงักงัน
ไม่มีใครกล้ามาลงทุนประชาชนว่างงาน แต่องค์กรภาคประชาสังคมชายแดนใต้ กลับมาตั้งคำถามห่วยๆ มีสักครั้งมั๊ย!! ที่คุณหรือเธอ
ทั้งหลายทำงานตามแนวทางและวัตถุประสงค์ขององค์กรอย่างแท้จริง ทำงานเพื่อส่วนรวม
เคลื่อนไหวเพื่อประชาชน หรือ!! ที่ทำการตรวจสอบการทำงานของรัฐ ด่ารัฐ ความเสี่ยงมันจะน้อยกว่าด่าโจร
หรือเป็นใบสั่งของใคร? บางคน
ประชาชนในพื้นที่
จชต.ทั้งหลาย ดูเอาเถิด!! ว่าเราจะหวังพึ่งพาอาศัยกับเหลือบริ้นไรกลุ่มนี้ได้หรือไม่?
การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ NGOs ที่มีมากถึง 521 องค์กร มีเงินทุนสนับสนุนไหลมาจากต่างประเทศในการทำกิจกรรมปีหนึ่งจำนวนเท่าไหร่?
หรือจะกลายเป็นอาชีพใหม่ไปแล้วในการเรียนลัดสร้างชีวิตสร้างอนาคตของผู้คนเหล่านี้ ที่ยึดไอดอลจากผู้ที่ประสบความสำเร็จหลายๆ
คน ที่ทำการด่ารัฐ คอยจับผิดรัฐ
ตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่แล้วรวย ขยายผลการละเมิดสิทธิมนุษยชน
การคุกคามเด็กและสตรี ขายข้อมูลให้องค์กรระหว่างประเทศ
ทั้งหมดทั้งสิ้นคุณและเธอทั้งหลายไม่ต่างจากคนที่เนรคุณประเทศชาติ หวังผลประโยชน์จากสถานการณ์ความรุนแรง..หากินบนซากศพของประชาชนผู้บริสุทธิ์...แล้วอย่างนี้สมควรให้
NGOs เหล่านี้อาศัยอยู่บนผืนแผ่นดินไทยต่อไปอีกหรือ?...
-------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น