2/02/2558

แฉพฤติกรรมสามโจรใต้บันนังสตา

อิมรอน


จากเหตุการณ์เมื่อ 27 มกราคม 2558 หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วม 431 และหน่วยที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการติดตามจับกุมและบังคับใช้กฎหมายต่อผู้ก่อเหตุรุนแรจำนวน 3 ราย เข้าปฏิบัติต่อเป้าหมาย 3 จุด ในพื้นที่ตำบลตาเน๊าะปูเต๊ะ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา

          เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึด ปืนพก ลูเกอร์ ขนาด.357 (ลูกโม่) พร้อมเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง โดย นายมะตอเฮ สิแล รับเป็นเจ้าของปืนพกกระบอกดังกล่าว พร้อมทั้งได้ส่งควบคุมตัว ตาม พ.ร.บ.กฎอัยการศึกฯ เพื่อดำเนินกรรมวิธีซักถาม ณ หน่วยซักถาม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43

          ต่อมาเมื่อ 29 มกราคม 2558 ชุดติดตามการดำเนินการด้านกฎหมาย กองกำลังทหารพรานจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ประสานความคืบหน้าทางคดี ณ สถานีตำรวจภูธรบันนังสตา และเบตง สรุปหมายจับ ป.วิอาญาทั้ง 3 คน ได้ดังนี้

นายมะตอเฮ สิแล มีหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 2 หมาย


          หมายจับที่ 1 เมื่อ 25  กรกฎาคม 2557 กรณีคนร้ายปล้นรถตู้โดยสารแล้วได้นำไปร่วมก่อเหตุลอบวางระเบิดแสวงเครื่องติดตั้งภายในรถยนต์กระบะ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน 2 คน และได้รับบาดเจ็บถึง 42 คน เหตุเกิดบริเวณหน้าโรงแรมฮอลิเดย์ฮิลล์ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ตามข่าวครึกโครมที่สื่อมวลชนได้นำเสนอไปแทบทุกช่องสื่อแล้วนั้น

          การติดตามจับกุม นายมะตอเฮฯ สืบเนื่องมาจาก นายบูดีมันฯ (หลานชาย) ให้การซัดทอดว่า นายมะตอเฮฯ เป็นผู้กระทำพิธีซูมเปาะ และเป็นครูฝึกร่างกายในขั้นต้นให้กับตนเอง เพื่อเข้าสู่ขบวนการแบ่งแยกดินแดน อีกทั้งได้มอบหมายให้ตนเองเป็นแนวร่วม ผกร. รับผิดชอบทำการเคลื่อนไหวในพื้นที่ อำเภอบังนังสตา จังหวัดยะลา

          ทั้งนี้จากการซักถามนายบูดีมันฯ ยังยืนยันอีกว่า นายมะตอเฮฯ สั่งการให้ตนเองดูต้นทางและความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่บนถนน เส้นทางจากบ้านของตนเอง คือหมู่ที่ 9 ตำบลตาเนาะปูเต๊ะ อำเภอบันนังสตาฯ ไปตามถนนใหญ่สายยะลา เบตง บ้านป่าหวัง ตำบลบังนังสตา จังหวัดยะลา

          สรุปความคืบหน้าการดำเนินคดีต่อเหตุระเบิด ร.ร.ฮอลิเดย์ฮิลล์ อำเภอเบตง จังหวัดยะลาได้ออกหมายจับ ป.วิอาญา รวม 13 หมาย จับกุมตัวได้แล้ว จำนวน 4 คน ยอมรับสารภาพ 3 คนและยังหลบหนีอยู่อีก 9 คน

          หมายจับที่ 2 เมื่อ 13 กรกฎาคม 2557 เหตุลอบยิง นายมาเละ โมยาเด็ง ผู้ใหญ่บ้าน ขณะขับรถยนต์กระบะไล่ติดตามจับกุม นายอิบรอเฮง หะยีมามะ ซึ่งบุคคลดังกล่าวได้หลบหนีไปยังขนำของนายมะตอเฮฯ และใช้อาวุธปืนพกทำการยิงต่อสู้ นายมาเละฯ ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด และบุคคลทั้ง 2 คน ได้หลบหนีไป เหตุเกิดในพื้นที่หมู่ 9 ตำบลเนาะปูเต๊ะ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา

          ต่อมาเมื่อ 18 ธันวาคม 2550 นายมาเละ โมยาเด็ง ผู้ใหญ่บ้านพร้อมพวกรวม 5 คน ได้ถูกคนร้ายลอบยิงทำให้ถึงแก่เสียชีวิต 4 คน รวมทั้งนายมะเละฯ ซึ่งได้ถูกคนร้ายตัดศีรษะและได้นำไปทิ้งไว้ใกล้กับจุดที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งยังถูกแย่งชิงอาวุธปืนไปด้วย

นายซะอุดี ติงอุเซ็ง บุคคลตามหมายจับ ป.วิอาญา 2 หมาย 


          หมายจับที่ 1 เมื่อ 19 มีนาคม 2551 เหตุคนร้ายจำนวน 2 คน ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ลอบยิง นายอาหะมะ ลาเก๊ะมา อาสาสมัครรักษาดินแดน อำเภอบันนังสตา เสียชีวิต ขณะขับขี่รถ จักรยานยนต์ และคนร้ายได้แย่งชิงอาวุธปืนพกไปด้วย  เหตุเกิดบนถนน พื้นที่หมู่ที่ 3 ตำบลบันนังสตา อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา

          หมายจับที่ 2 เมื่อ 27 พฤษภาคม 2552 เหตุคนร้ายซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ทหาร ชุดร้อย.ร.5032 ขณะทำการลาดตระเวนด้วยยานพาหนะ ทำให้มีเจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิต 1 นาย และได้รับบาดเจ็บ 4 นาย เหตุเกิดในพื้นที่ หมู่ที่ 6 ตำบลบันนังสตา อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา

          ซึ่งจากคดีนี้ ศาลจังหวัดยะลาได้ออกหมายจับ ป.วิอาญาแล้วจำนวน 9 หมาย ซึ่งผู้ต้องหาได้เสียชีวิตจากการปะทะ 3 คน และ จับกุมกุมตัวได้แล้ว 3 คน ยังทำการหลบหนีอีก 3 คน

นายมาหามะ หะมิดง บุคคลตามหมาจับ ป.วิอาญา 1 หมาย


          เมื่อ 23 มีนาคม 2551 ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บันนังสตา ชุดรักษาความสงบหมู่บ้าน ตรวจพบผู้ต้องสงสัย 3 คน วิ่งหลบหนีจนเกิดการปะทะ โดยคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้ เหตุเกิดบริเวณสวนผลไม้ภายในพื้นที่หมู่ที่ 9 บ้านตาเนาะปูเต๊ะใน ตำบลตาเนาะปูเต๊ะ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา

          ต่อมาจากการติดตามรอยเลือด พบบ้านต้องสงสัยจึงเข้าทำการพิสูจน์ทราบ พบตัวผู้ต้องสงสัยถูกลอบยิงบริเวณฝ่าเท้าทราบชื่อในเวลาต่อมาคือ นายเซ็ง ปะมิดง จึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาล และได้อายัดตัวดำเนินคดี เพื่อติดตามผู้ต้องสงสัยอีก 2 คน

          ผลการดำเนินการด้านกฎหมาย ศาลจังหวัดยะลาได้ออกหมายจับ ป.วิอาญา 3 คน จับกุมตัวแล้ว 2 คน อยู่ระหว่างการประกันตัว สำหรับพฤติกรรมการก่อเหตุของนายซะอุดีฯ ทำหน้าที่ในการขับขี่รถจักรยานยนต์ให้กับมือปืนทำการก่อเหตุ

          สำหรับผลการดำเนินกรรมวิธีซักถามผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ยังคงให้การปฏิเสธความเกี่ยวข้อง กับการก่อเหตุรุนแรงทุกกรณี ถึงแม้ว่าจะมีหลักฐานอ้างอิงเชื่อมโยงก็ตาม ซึ่งการไม่ยอมรับดังกล่าวเป็นแบบฉบับของกลุ่ม ผกร.ไปเสียแล้ว ที่จะปากแข็งไม่ยอมรับในสิ่งที่ได้กระทำมาเป็นอันขาด เนื่องจากได้รับการติวข้นมาจากทีมที่ปรึกษาด้านกฎหมายขั้นเทพอย่างเช่นศูนย์ทนายความมุสลิม

          ถือได้ว่ารูปแบบการต่อสู้ของกลุ่มขบวนการ BRN มีความเชื่อมโยงซับซ้อนซ่อนเงื่อน มีการวางหมากเดินเกมส์หลายชั้น มีการแจกจ่ายงานกันเป็นทอดๆ ตัดตอนในส่วนงานที่ตนเองต้องรับผิดชอบเท่านั้น

          แต่ถึงอย่างไรก็ตามกฎหมายบ้านเมืองย่อมมีความศักดิ์สิทธิ์ ผู้ที่กระทำความผิดก็จะต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนกระบวนการของกฎหมาย ตามหลักฐานและวัตถุพยานสิ่งแวดล้อม ถึงแม้ในขั้นตอนการซักถามยังให้การภาคปฏิเสธ แต่เชื่อเหลือเกินว่าผลกรรมที่บุคคลเหล่านี้ได้ก่อขึ้นมาจะต้องได้รับการชำระล้างเลือด ไม่ใช่เป็นการรังแกพี่น้องมลายูมุสลิม ทุกสิ่งทุกอย่างได้ว่ากันไปตามหลักการของเหตุและผล แต่ก็มิวายยังมีกลุ่มบุคคล องค์กรหน้าโง่ทำการเคลื่อนไหวอย่างไร้เหตุผลอย่างคนไร้สติ ในการพยายามชี้ให้เห็นถึงความอยุติธรรมของศาลไทย การถูกกดขี่ข่มแหงรังแกจากเจ้าหน้าที่รัฐ ขอโทษทีทุกวันนี้ไม่เป็นผล เพราะพี่น้องประชาชนปาตานีเค้ารู้ทันเลห์เหลี่ยม เล่ห์เพอุบายของพวกคุณหมดแล้ว...อย่าเปลืองน้ำลายในการเห่าหอนอีกต่อไปอีกเลย เพราะคงไม่มีใครเห็นดีเห็นงามกับพวกคุณอีกต่อไปอีกแล้ว....
------------------------

          

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น