‘อิมรอน’
หากใครเล่นเฟสบุ๊ค และได้ติดตามเรื่องราวข่าวสารในพื้นที่ จชต.
ในระยะนี้จะพบว่ามีการเคลื่อนไหวของ “เพจผี” ซึ่งเป็นสื่อแนวร่วมโจรใต้ฟาตอนีไม่เว้นแต่ละวัน ล่าสุดเว็บเพจ Patani
Jurnal ได้เผยแพร่ข้อความการเสียชีวิตของคนไทยพุทธที่ อ.สะบ้าย้อย
จ.สงขลา เมื่อ 6 ก.พ.58 อ้างว่า “ทหารไทยไม่สามารถปกป้องประชาชนของตนเองได้
นับตั้งแต่เกิดเหตุความไม่สงบ” มีประชาชนผู้บริสุทธิ์จำนวนมากเสียชีวิตและบาดเจ็บ
สมควรหรือไม่ที่จะให้ทหารอยู่ในพื้นที่ต่อไป ปัญหาความรุนแรงในปาตานีจะไม่ยุติจนกว่าจะได้รัฐปาตานีคืนมา และการที่คนไทยมุสลิมยอมเป็นอาสาสมัครให้กับรัฐไทย
อาสาสมัครดังกล่าวก็จะตกเป็นเหยื่อเหตุรุนแรง ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐไทย
ที่ต้องการให้คนมุสลิมฆ่ากันเอง นี่เป็นวิธีการของรัฐไทย”
ปีนี้เป็นปีที่ 2 ที่แนวร่วมโจรใต้ฟาตอนียังคงเดินหน้านโยบาย “รัฐสยามเฟลเสต็ด (fale state)” โดยบิดเบือนข้อเท็จจริง
โจมตีการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ
ลดทอนความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่ออำนาจรัฐ
และโจมตีนโยบายในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ จชต.
พร้อมกับชี้นำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
Propaganda หรือ “โฆษณาชวนเชื่อ”
ซึ่งเป็นภาคหนึ่งของการชิงความได้เปรียบในสงคราม เวลามีการสู้รบปรบมือกับใคร
แทนที่จะสู้กันซึ่งๆ หน้าเพียงอย่างเดียว ก็ต้องมีการต่อสู้กันในเชิงข้อมูลข่าวสารเพื่อปลุกขวัญกำลังใจ
ตีแผ่ความดีและความสำเร็จของฝ่ายตน ในขณะเดียวกันก็ตอกย้ำความเลวร้ายหรือความไม่ถูกต้องของฝ่ายตรงข้ามไปด้วย
การโฆษณาชวนเชื่อ
ในยุคหลังๆ พัฒนาไปตามเครื่องมือสื่อสารและเทคโนโลยี ในยุคปัจจุบันอินเทอร์เน็ตและสื่อ
Social
Media
ได้เข้ามามีบทบาทต่อชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะ “เฟซบุ๊ค” เป็นช่องทางในการเผยแพร่ข้อมูลฝ่ายตน
ซึ่งขยายเขตงานเข้าไปในโลกออนไลน์เพิ่มมากขึ้น สังเกตได้จากระยะหลัง มีการบิดเบือนข้อมูล
ด้วยการโยนความผิดให้กับเจ้าหน้าที่รัฐถี่ขึ้น และการปฏิบัติการเริ่มออกสู่สาธารณะ
ทั้งนี้เพื่อสนองนโยบายขบวนการ BRN ในการบิดเบือนความจริงตั้งแต่ปี 47
เป็นต้นมาอย่างชัดเจน
ขอบอกว่า...การโฆษณาชวนเชื่อไม่ใช่วิธีการแย่งชิงมวลชนที่แท้จริง
แต่ในการต่อสู้ด้วยความดี ความจริง (ใจ) และความถูกต้อง เคารพกฎหมาย
ไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชนต่างหาก ที่จะครองใจประชาชนอย่างยั่งยืน!
สงครามมวลชน (
ปือรังมาซา ) ของขบวนการฯ กำลังจะเสื่อมถอย
คนนอกพื้นที่ต่างมองคนมลายูปาตานีในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่าสุดโต่ง
ส่งผลให้ความเชื่อมั่น ในคุณธรรม ศีลธรรม
จริยธรรมหมดสิ้นไปด้วยฝีมือของโจรใต้เอง
กลายเป็นปัญหาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นในสังคมมลายูปาตานี ซึ่งมิใช่ปัญหาทางเศรษฐกิจแต่เพียงอย่างเดียว
หากเป็นปัญหาทางด้านจิตใจและจิตวิญญาณ สังคมมลายูปาตานีกลายเป็นสังคมที่ขาดความสงบสุขไปในที่สุด
กระแสความเสื่อมทางศาสนา, เศรษฐกิจ และสังคมด่ำดิ่งลึกลงสู่ก้นเหว
มีผลกระทบต่อผู้คนในระดับรากหญ้า เป็นความล่มสลายที่เกิดขึ้นจากระบบผลประโยชน์ของขบวนการฯ
อันเป็นสาเหตุให้ประชาชนมลายูปาตานีมีฐานะที่จนลง และอ่อนแอจนไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้
ปัจจุบันโครงสร้างองค์กรของขบวนการฯ ที่ทำการต่อสู้ในปาตานีได้เริ่มเสื่อมลง
เพราะขาดมวลชนสนับสนุนไปเป็นจำนวนมาก ประชาชนมลายูปาตานีส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับความรุนแรง
จึงเริ่มมีความเสื่อมศรัทธาต่อนักรบ โดยเฉพาะโครงสร้างฝ่ายมวลชน, ฝ่ายการเมือง,
ฝ่ายเศรษฐกิจ, ฝ่ายสตรี และหมู่บ้านจัดตั้งก็ไม่มีใครให้ความสำคัญ
ยกเว้นฝ่ายทหารที่คงยังมีกำลังอยู่ แต่ก็ไม่ได้วิเศษวิโสและไม่ได้มีพลังตามที่เราเข้าใจกัน
เพราะเจ้าหน้าที่ได้ทำการติดตามจับกุมผู้กระทำผิด บ้างก็ถูกวิสามัญ และมีบางส่วนได้หลบหนีออกนอกประเทศไปกบดานยังประเทศเพื่อนบ้าน และในปัจจุบันมีผู้หลงผิดจำนวนมากที่ได้กลับตัวกลับใจเป็นคนดีในการเข้ามารายงานตัวแสดงตนต่อทางการเพื่อเข้ามาช่วยเหลือสังคม
ช่วยกันพัฒนาถิ่นเกิด
ฉะนั้นแนวร่วมที่ยังเคลื่อนไหวอยู่
ก็ขอให้กลับตัวกลับใจหันหน้ามาทำประโยชน์ต่อบ้านเมือง เพราะตอนนี้มวลชนมลายูปาตานีเองไม่มีใครที่จะให้ความร่วมมือต่อขบวนการฯ
ร่วมมือไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร 10 ปีที่ผ่านมาไม่มีอะไรดีขึ้นเลย
นอกจากได้รับความเดือดร้อนในการทำมาหากิน แต่ประชาชนมลายูปาตานีต้องการให้ผู้ที่อยู่ในขบวนการฯ
สำนึกผิดกลับตัวกลับใจเป็นคนดีสู่สังคม และรอเวลานั้น ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่วิกฤติอันตรายกลายสภาพเป็น...นักรบฟาตอนีเป็นผู้ก่อการร้ายสากล
(ไม่ใช่วีรบุรุษตามที่เราเข้าใจ)
ความเคลื่อนไหวล่าสุดเว็บเพจ Patani Darussalam
News อ้างเหตุยิงคนไทยมุสลิมในพื้นที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา และ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เมื่อ 10 ก.พ.58
เป็นการกระทำของทหารที่ต้องการคงงบประมาณในพื้นที่ จชต. ปาตานีจะไม่เกิดสันติสุขหากทหารยังสามารถดำเนินการใดๆ
ได้ตามอำเภอใจ
ส่วนเว็บเพจ Patani jurnal
ระบุคนมุสลิมปาตานีที่ถูกยิงเป็นเหยื่อการเมืองในการสร้างสันติสุขของรัฐบาลไทย
ไม่แปลกใจหรอก!! ที่สื่อโจรใต้ฟาตอนีเหล่านี้ได้ออกมาแก้ตัวอย่างหน้าด้านๆ
เมื่อโจรใต้ RKK ได้ปฏิบัติการก่อเหตุในพื้นที่ด้วยการลอบทำร้ายต่อเป้าหมายอ่อนแอ
รวมทั้งการลอบยิงชาวไทยมุสลิมด้วยกันเองในพื้นที่ อ.บันนังสตา
จ.ยะลา และ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เมื่อ 10 ก.พ.58 ซึ่งเหตุการณ์เช่นนี้ยังมีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง เพื่อสร้างความหวาดกลัว
ความหวาดระแวงให้เกิดขึ้นระหว่างพี่น้องชาวไทยพุทธ-ไทยมุสลิม และต้องการให้ประชาชนเกิดความไม่ไว้วางใจต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ
ที่กล่าวมาคือเป้าหมายแรกที่ขบวนการเหล่านี้ต้องการจะสื่อ
ประการต่อมาเป็นการกล่าวหาว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่เพื่อต้องการคงงบประมาณดับไฟใต้
พร้อมทั้งชี้ให้เห็นถึงการเสียชีวิตของประชาชนเป็นเหยื่อทางการเมืองในกระบวนการสร้างสันติสุข
ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมบุคคลเหล่านี้ถึงได้กลัวนักหนากับการเดินหน้าสร้างสันติสุขของรัฐบาลไทยกับกลุ่มผู้คิดต่างจากรัฐ
แน่นอนหากสันติสุขเกิดขึ้นการวางแผนที่ได้มีการตั้งธงไว้แล้วล่วงหน้าในการต่อสู้ของระดับแกนนำเป็นอันต้องพังพาบลง
ก่อนหน้านั้นได้มีการใช้ปีกการเมืองอย่าง PerMAS ในการรณรงค์
ปลุกกระแสความรักชาติปาตานี
ชี้นำให้มีการลงประชามติเพื่อกำหนดใจตนเอง แยกตัวเป็นอิสระนำไปสู่เอกราชจะต้องเป็นหมัน
นี่คือพฤติกรรมความชั่วร้ายของกลุ่มขบวนการ
และองค์กรแนวร่วมที่ได้มีการบูรณาการในการแยกกันเดิน รุมกันตี..เพื่อทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนต่อรัฐบาล
มุ่งไปสู่เป้าหมายอันเดียวกัน คือ “เอกราช” เพียงอย่างเดียวเท่านั้น….โดยยังคงนโยบายในการบิดเบือนความจริง
แหกตาประชาชนมลายูปาตานีต่อไป...ตราบใดที่พื้นที่แห่งนี้ยังไม่เกิดสันติสุขอย่างแท้จริง...
-------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น