‘อิมรอน’
เป็นความขมขื่นที่โจรใต้ฟาตอนียัดเยียดให้...จากกรณีคนร้ายลอบวางระเบิดริมถนนทางเข้าหาดเสด็จ
จ.นราธิวาส พ่อ-ลูกขี่รถจักรยานยนต์กลับจากออกกำลังกายเพื่อมุ่งหน้ากลับบ้านพัก
ต้องรับเคราะห์บาดเจ็บ จำนวน 4 ราย
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบระเบิดอีกลูกหนัก 10 กก. ห่างเพียง 60 เมตร
เก็บกู้ทำลายสำเร็จ
เมื่อวันที่
24 เม.ย.58 เวลา 08.15 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตากใบ
รับแจ้งมีเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดริมถนนทางเข้าหาดเสด็จ หมู่ 1 ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส
เหตุระเบิดทำให้ชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 4 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่งจึงรุดไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ
เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงบริเวณที่เกิดเหตุพบเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายบรรจุใส่ไว้ในถังแก๊สปิกนิก
น้ำหนัก 20 กก. จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสารตกกระจายเกลื่อนพื้นถนน และห่างไป 20 เมตร
พบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง สีแดง ทะเบียน 1กก 450 นราธิวาส
ล้มตะแคงอยู่ในสภาพถูกสะเก็ดระเบิดเป็นรูได้รับความเสียหาย
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บพลเมืองดีนำตัวส่งรักษาตัวโรงพยาบาลตากใบ
ไปก่อนหน้านี้แล้วทราบชื่อคือ 1.นายมูอารีรัน ลายอเงาะ 2.ด.ญ.อูนาเดีย ลายอเงาะ
3.ด.ช.ไมฮาดี ลายอเงาะ และ 4.ด.ช.นาซาฮี ลายอเงาะ ทั้งหมดเป็นพ่อลูกกัน
โดยมีบาดแผลถูกสะเก็ดระเบิด ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายมูอารีรันฯ พร้อมด้วยลูกๆ รวม 4 คน
ได้ขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างออกจากบ้านพักเพื่อไปออกกำลังกายที่ชายหาดเสด็จ
เมื่อออกกำลังกายเสร็จได้ขี่รถจักรยานยนตร์พ่วงข้างคันดังกล่าวเพื่อจะกลับบ้านพัก ครั้นมาถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายจุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่นำไปซุกซ่อนไว้ในกระถาง
ดอกไม้ข้างโคนเสาไฟฟ้าริมถนน
จนเกิดระเบิดขึ้น ขณะนายมูอารีรันฯ และลูกๆ กำลังขับรถผ่านมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุพอดี
อย่างไรก็ตามในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุนั้น
พบวัตถุระเบิดที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็กอีกลูก น้ำหนัก 10 กก.
จุดชนวนด้วยระบบดึงเลิกดึง ที่นำไปผูกติดไว้กับโคนเสาไฟฟ้าริมถนน ห่างจากจุดเกิดเหตุจุดแรก
ประมาณ 60 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้ปืนแรงดันน้ำพลังสูงยิงทำลาย
นายมูอารีรัน
ลายอเงาะ ได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่ตนเพิ่งได้ประสบเจอมาว่า จุดที่เกิดเหตุเป็นทางตรงและเป็นสถานที่โล่ง
หากมองจากไกลๆ ใครผ่านไป-มา จะสังเกตเห็นจึงเป็นไปไม่ได้ที่มือกดระเบิดจะไม่เห็นตนเองและเด็ก
เป็นความจงใจที่คนร้ายต้องการกดชนวนระเบิดเพื่อทำร้ายตนและลูกทั้งสามคนที่กำลังขับรถผ่านมา
จากคำบอกเล่าของนายมูอารีรัน
ลายอเงาะ จะเห็นได้ว่าการก่อเหตุสร้างสถานการณ์ของกลุ่มขบวนการโจรใต้ยังคงเป็นรูปแบบยุทธวิธีเดิมๆ
เป็นแผนชั่วของโจรใต้ฟาตอนีที่จงใจทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์
เพื่อลวงให้เจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบยังสถานที่เกิดเหตุ เป้าหมายคือระเบิดลูกที่สองต้องการทำร้ายเจ้าหน้าที่ด้วยการประกอบระเบิดน้ำหนัก
10 กก.จุดชนวนด้วยระบบดึงเลิกดึง
แต่มีการตรวจเจอและทำลายเสียก่อน..นี่คือความสุดโต่ง ของขบวนการโจรใต้อีกครั้งหนึ่งที่มุ่งทำร้ายต่อเด็ก...
พ.อ.ปราโมทย์
พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า
เปิดเผยว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นการกระทำของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ
ที่พยายามสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนผู้บริสุทธิ์
ถือว่าเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม แสดงความโหดเหี้ยม ไม่เลือกเป้าหมาย
แม้กระทั่งเด็กเล็กก็ไม่เว้นสมควรให้ทุกภาคส่วนช่วยกันประณามคนร้ายด้วย
ผู้เขียนอยากจะสื่อไปยังกลุ่มนักศึกษา
PerMAS,
นางสาวพรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผอ.มูลนิธิผสานวัฒนธรรม
และกลุ่มภาคประชาสังคมปากดีทั้งหลายทำไมเงียบล่ะ!!!
หรือดีแต่คอยตั้งแง่กับเจ้าหน้าที่เพียงฝ่ายเดียว
แต่ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรกับบุคคลกลุ่มนี้ ใครต่างรู้ดีว่าเป็นลิ่วล้อของกลุ่มขบวนการ
BRN ไม่ได้มีอิสระในการดำเนินกิจกรรมเพื่อเป็นปากเป็นเสียงให้กับประชาชนในพื้นที่
จชต. อย่างที่พูดเลย...แต่กลับเคลื่อนไหวตามใบสั่งของระดับแกนนำขบวนการโจรใต้
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถึงแม้เด็กต้องได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิด
แต่อย่างน้อยในความเจ็บปวดที่ได้รับการยัดเยียดนั้น ได้กระชากหน้ากากของผู้ร้ายตัวจริงที่มุ่งทำลายชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์
สื่อให้เห็นธาตุแท้ของผู้ที่ยกย่องตัวเองว่าเป็นนักรบ ขบวนการโจรใต้ไม่ได้เคลื่อนไหวเพื่อประชาชนชาวปาตานีอย่างแท้จริง
เป็นความเพลี้ยงพล้ำทางการเมืองอีกครั้งหนึ่งของขบวนการ BRN อีกทั้งเป็นการก่อเหตุที่ไม่เลือกเป้าหมายทั้งไทยพุทธ-ไทยมุสลิม….
--------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น