‘แบดิง โกตาบารู’
เหตุการณ์วันที่
25 ก.ค.58 เป็นอีกวันหนึ่งที่หลายๆ คนตื่นขึ้นมา ต้องเจอกับข่าวเศร้ารับเช้าอรุณของวันใหม่
เมื่อสื่อได้นำเสนอข่าวคนร้ายลอบวางระเบิดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ไม่น่าเชื่อว่าคนร้ายที่มีจุดมุ่งหมายต้องการลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยพระ
ด้วยการลอบวางระเบิดในเขตเทศบาลตะลุบัน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี โดยไม่ใส่ใจผลกระทบที่จะตามมา
ไม่ว่าจะเป็นประชาชนผู้บริสุทธิ์ และพระภิกษุสงฆ์ซึ่งเป็นนักบวชของพุทธศาสนา
ประชาชนผู้บริสุทธิ์
ซึ่งเป็นเป้าหมายอ่อนแอ มุ่งประกอบศาสนกิจกับชีวิตประจำวันในการจรรโลงพระพุทธศาสนาด้วยการทำบุญตักบุตร
แต่โจรใต้กลับทำบาปด้วยการลอบทำร้ายประชาชน และ พระภิกษุสงฆ์
เสมือนหนึ่งสัญลักษณ์ของศาสนาพุทธ ซึ่งผู้ที่เจริญแล้วย่อมไม่กระทำกัน การกระทำดังกล่าวเสมือนคนที่ไร้ศาสนา
ไร้ความนึกคิดรับผิดชอบชั่วดี
จิตใจของโจรใต้ฟาตอนีนับวันยิ่งตกต่ำขึ้นทุกวัน
กับพฤติกรรมเยี่ยงสัตว์ร้ายที่สิงสถิตอยู่ในร่างคน ทุกการกระทำที่ผ่านมาได้ย่ำยีและทำร้ายจิตใจประชาชนทั้งประเทศที่ติดตามข่าวสารและเป็นห่วงเป็นใยต่อพี่น้องร่วมชาติในจังหวัดชายแดนใต้
สิ่งที่แกนนำกลุ่มขบวนการได้สั่งการให้สมาชิกโจรใต้กระทำลงไป
คิดหรือ?
ว่าประสบความสำเร็จคิดหรือ? ว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงที่สามารถทำลายชีวิตเจ้าหน้าที่
ชีวิตนักบวช และประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้....
แต่ผิดคาด!!!....เพราะสิ่งที่โจรใต้เหล่านี้ได้กระทำลงไปเป็นการประจานตัวเอง
และองค์กรมากกว่า การใช้ความรุนแรงมีแต่สร้างความสูญเสียไม่ใช่ทางออกของสันติภาพ...ภาพความโหดร้ายที่สื่อทำการเผยแพร่แน่นอนย่อมเป็นข่าวใหญ่เป็นที่สนใจของคนทั้งประเทศ
ในสายตาพวกคุณคือความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ แต่สำหรับชาวไทย
และคนทั้งโลกที่ต้องการสันติสุข พวกคุณ คือผู้ก่อการร้ายทำลายการอยู่ร่วมอย่างพหุวัฒนธรรมอย่างสิ้นเชิง
ผลการกระทำของโจรใต้ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นเจ้าหน้าที่ทหาร
ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย เสียชีวิต 1 นาย พระสงฆ์ได้รับบาดเจ็บ 1 รูป มรณภาพ 1 รูป ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับบาดเจ็บ
จำนวน 3 ราย รายละเอียดดังนี้.-
1.จ.ส.ท.ชนันท์ พุ่มพิพัฒน์ (บาดเจ็บ)
2.ส.ท.พูนศักดิ ์ วรรณวีระ(บาดเจ็บ)
3.ส.ท.วรรรณใหม่ ราคะโน (เสียชีวิต)
4.พระพยอม ฐานวุฑโฒ (บาดเจ็บ)
5.พระเอกพล อินทโร (มรณภาพ)
6. นายนิวัฒน์ นิมะ (บาดเจ็บ)
7. นางสมใจ วิเศษสุวรรณภูมิ (บาดเจ็บ)
8. นายสุวาท คงอินทร์ (บาดเจ็บ)
เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องนำผู้บาดเจ็บส่งทำการรักษาตัว
รพ.ยุพราชสายบุรี ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสส่งรักษาตัวต่อโรงพยาบาลปัตตานี
อนึ่งจากการลอบระเบิดของกลุ่มขบวนการโจรใต้ในครั้งนี้...จากข้อมูลพบว่าจุดที่มีการลอบวางระเบิดเป็นถังแก๊สปิกนิกสีส้ม
ขนาดบรรจุ 4 กก. น้ำหนักรวมส่วนสังหารเมื่อประกอบเป็นวัตถุระเบิดแสวงเครื่องประมาณ 20-25 กก. ดินระเบิดหลัก เป็นดินระเบิดแรงสูงผสมเอง
(HME)เหล็กเส้นตัดท่อนความยาวคละขนาด
จุดระเบิดด้วยเครื่องมือสื่อสารใช้การควบระยะใกล้โดยใช้วิทยุสื่อสาร ยี่ห้อ Tyt.....
ที่น่าสังเกตคือผู้ที่ทำการใส่บาตรในจุดนี้เป็นผู้หญิงที่ทุพลภาพ
เพราะฉะนั้นระยะเวลาในการใส่บาตรพระภิกษุสงฆ์ล่าช้า
ส่งผลให้โจรใต้ฟาตอนีซึ่งรอจุดระเบิดอยู่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำปัตตานี
สามารถมีเวลาและมองเห็นเป้าหมายอย่างชัดเจน จนนำมาซึ่งความสูญเสียดังกล่าว
จากเหตุระเบิดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพระ
ขณะบิณฑบาต บริเวณตลาดเทศบาลอำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี
เหตุความรุนแรงครั้งนี้ทำให้องค์กรภาคประชาสังคมหลายองค์กรร่วมกันออกแถลงการณ์ประณามความรุนแรงรวมทั้งมีข้อเรียกร้องต่อเจ้าหน้าที่รัฐและผู้ใช้ความรุนแรงทุกฝ่ายให้หยุดการกระทำดังกล่าว
ความโหดร้ายโจรใต้ที่สายบุรี ทำร้ายประชาชน ฆ่าได้แม้กระทั่งพระสงฆ์
สำนักจุฬาราชมนตรี
ได้แถลงการณ์
“การฆ่าและทำร้ายพระ นักบวช ผู้นำศาสนา ตลอดจนประชาชนผู้บริสุทธิ์”, สมาคมเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ แถลงการณ์ ฉบับที่ 2/2558 “ประณามการใช้ความรุนแรงต่อพระ สตรี ประชาชนผู้บริสุทธิ์ และเป้าหมายอ่อนแอ”, สหพันธ์นักเรียนนักศึกษาเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ แถลงการณ์ ฉบับที่
4/2558 “ประณามการใช้ความรุนแรงต่อพระ ประชาชนผู้บริสุทธิ์
และเป้าหมายอ่อนแอ”, ชาวไทยพุทธ แถลงการณ์ฉบับพิเศษ
1/2558ประณาม “การฆ่า”
ผู้นำศาสนาพุทธ ประชาชน และชุดคุ้มครองความปลอดภัยพระสงฆ์, เครือข่ายอาสาสมัครปกป้องพุทธศาสนา
จังหวัดยะลา แถลงการณ์ เรื่อง “เหตุการณ์ความไม่สงบในอำเภอสายบุรี
จังหวัดปัตตานี” และแถลงการณ์คณะสงฆ์จังหวัดปัตตานี เรื่อง “เหตุการณ์ความไม่สงบในอำเภอสายบุรี”
รายละเอียดเพิ่มเติม
http://www.deepsouthwatch.org/node/7459
ในขณะที่หลายองค์กรได้ออกมาแสดงความเสียใจและประณามการกระทำของขบวนการโจรใต้
แต่ไม่น่าเชื่อว่าสื่อแนวร่วมขบวนการโจรใต้ เพจ: Patani
Peace กลับออกมากล่าวว่า “พระตายคนเดียว
ดราม่ากันทั้งประเทศ” ทั้งที่ในช่วงเดือนรอมฎอน “กลุ่มคนติดอาวุธ”
ก่อเหตุยิงและระเบิดต่อผู้นำท้องถิ่น, ผู้นำศาสนาอิสลาม
และราษฎรไทยมุสลิมที่เดินทางไปละหมาดที่มัสยิด แต่กลับไม่มีการพูดถึง
เหตุใดสังคมจึงไม่เห็นความสำคัญ
“กลุ่มคนติดอาวุธ”
ที่ทำการก่อเหตุสร้างสถานการณ์ตลอดระยะเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมาไม่ใช่กลุ่มขบวนการโจรใต้ฟาตอนีหรอกหรือ?
ที่สร้างความเดือดร้อนไปทั่วทุกหย่อมหญ้า ทำการเข่นฆ่าชีวิตผู้คนเสมือนผักปลา
แม้กระทั่งเดือนรอมฎอน เดือนแห่งการทำความดียังไม่ละเว้น กลับชี้นำให้สมาชิกแนวร่วมทำการก่อเหตุด้วยการบิดเบือนหลักศาสนา
และจูงใจที่ผิดๆ การฆ่าชีวิตคนในเดือนนี้จะได้รับ “ผลบุญร้อยเท่าพันทวีคูณ”ซึ่งในความเป็นจริงไม่มีศาสนาไหนในโลกนี้ส่งเสริมให้การฆ่าคนแล้วได้บุญ
ทุกศาสนาได้สั่งสอนว่าการกระทำดังกล่าวเป็นบาป…
ประชาชนที่หลงเชื่อกับคำโฆษณาชวนเชื่อของกลุ่มขบวนการที่ผ่านมา
เริ่มเห็นธาตุแท้ของไซตอนและซาตาน ที่แฝงกายอยู่ในร่างคน
เพราะทุกการกระทำคือคำตอบไม่ต้องให้ใครชี้นำกล่าวหาว่ากลุ่มขบวนการไม่ดี...อีกไม่นานองค์กรชั่วร้ายจะล่มสลาย
เมื่อนั้นประชาชนปาตานีจะนอนตาหลับไม่ต้องฝันร้าย...สันติสุขที่ทุกคนต่างรอคอยจะมาถึง.....
-----------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น