‘แบดิง โกตาบารู’
ยุทธศาสตร์กลุ่มขบวนการ
BRN
ในอดีตที่ผ่านมาซึ่งมีการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนคือ “เอกราช” และ “มุ่งไปสู่การปกครองตนเอง” ไม่ว่าจะเป็นแบบรัฐอิสลามหรือไม่? วิธีหลักที่กลุ่มขบวนการ BRN ใช้มาโดยตลอด คือ “ยุทธศาสตร์สงครามประชาชน”
ภายใต้ยุทธวิธีสงครามกองโจร การญีฮาด
และสงครามข่าวสาร
สงครามข่าวสารในยุคเริ่มแรกที่กลุ่มขบวนการ BRN ใช้ได้ผลมากที่สุดคือ ปากต่อปาก ใบปลิว ป้ายผ้า
อีกทั้งมีการปล่อยข่าวลือ มุ่งทำการก่อเหตุใช้ความรุนแรง
เป้าหมายคือให้องค์กรต่างชาติเข้ามาแทรกแซง นำไปสู่เอกราช
เมื่อกระบวนการสันติภาพได้เกิดขึ้นในห้วงระยะเวลาที่ผ่านมา
ภาคประชาสังคมเริ่มเข้ามามีบทบาท เป็นตัวแสดงหลักในการขับเคลื่อนที่มีทุนจากต่างชาติหนุนหลัง
ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้จะมีมากถึง 521 องค์กร
แต่ก็ถึงบางอ้อเมื่อเจอข้อมูลที่มีการลงนามในตราสารระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยเป็นภาคีถึง
9 ฉบับ แต่ที่เกี่ยวข้องกับจังหวัดชายแดนภาคใต้โดยตรง 7 ฉบับ
เป็นการเอื้อของกฎหมายระหว่างประเทศให้ทุนต่างชาติเข้ามาสร้างกระบวนการสันติภาพในพื้นที่ของประเทศ
จากผลพวงดังกล่าวกลุ่มขบวนการ
BRN
หันมาใช้ภาคประชาสังคมเป็นเครื่องมือสำคัญในการแสวงหาผลประโยชน์จากระบวนการสันติภาพเพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายเอกราช
มีการอำพราง แทรกแซง และจัดตั้งองค์กรภาคประชาสังคมฝ่ายตนเองขึ้นมา ส่งผลให้บริบท
ตัวแสดง รูปแบบ และเวทีที่จะเล่นได้เปลี่ยนแปลงไปจากรูปแบบเดิมๆ
จากสงครามกองโจรที่ได้เคยใช้อยู่
นี่คือโจทย์ใหม่ของหน่วยงานความมั่นคงที่จะต้องทำความเข้าใจ
และติดตามตรวจสอบองค์กรภาคประชาสังคมบางองค์กรที่ทำการ ลับ ลวง พราง
แต่เบื้องหลังคือเนื้อเดียวกันกับขบวนการ BRN มีความพยายามในการรวบรวมภาคประชาสังคมจัดตั้งเป็นเครือข่ายเพื่อใช้เป็นอำนาจการต่อรองกับหน่วยงานภาครัฐขึ้นมา
และเมื่อเร็วๆ นี้ นายตูแวดานียา ตูแวแมแง ได้ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานภาคประชาสังคมต่างๆ
และจัดตั้ง เครือข่ายภาคประชาสังคมเพื่อสันติภาพขึ้นซึ่งมีสมาชิก 18 องค์กรด้วยกัน
ความเคลื่อนไหวของเครือข่ายภาคประชาสังคมเพื่อสันติภาพ
(คปส.) กับภารกิจแรก คือการเล่นบทด้วยการออกแถลงการณ์กล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐ
ปฏิบัติไม่เป็นธรรม และละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อประชาชนเครือข่ายนักกิจกรรมเพื่อสังคม
และนักสิทธิมนุษยชนเพื่อสันติภาพ
พร้อมทั้งได้มีการกล่าวว่าได้เรียกร้องขอเข้าพบแม่ทัพภาคที่
4 แต่ไม่ได้รับการตอบรับใดๆ จึงได้ออกมาแถลงการณ์เรียกร้องความเป็นธรรมกับสังคม
มาตีแผ่ความจริงกันดูว่าใคร?
กันแน่ที่เล่นแง่ไม่ยอมเข้าพบแม่ทัพภาคที่ 4 ทั้งๆ ที่มีการเปิดพื้นที่การพูดคุยให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาตอบข้อสงสัยในเรื่องที่ค้างคาใจในวันที่
14 ก.ค.58 ค่ายสิรินธร กอ.รมน.ภาค 4 สน. แต่กลับชิงความได้เปรียบในการออกแถลงการณ์ในวันที่
13 ก.ค.58 ณ มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิมประจำจังหวัดปัตตานี
เครือข่ายภาคประชาสังคมเพื่อสันติภาพ
(คปส.) มีภาคีร่วมเครือข่ายร่วม 18 องค์กร คิดว่าผู้ที่ติดตามสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้คงจะทราบดีว่ามีองค์กรใดบ้าง
พฤติกรรมของเครือข่ายภาคประชาสังคมเพื่อสันติภาพ
(คปส.) ได้รวมตัวกันเพื่อสร้างความแข็งแกร่ง
มุ่งกล่าวหาโจมตีเจ้าหน้าที่รัฐว่ามีการละเมิดสิทธิมนุษยชน การบังคับใช้กฎหมายที่ไม่เสมอภาค
และการไม่ได้รับความยุติธรรม
องค์กรเหล่านี้ได้มีการตรวจสอบและพยายามหาข้อผิดพลาดในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ
นำไปทำการขยายผลสร้างการรับรู้
โดยอาศัยข้ออ้างเพื่อการปกป้องการละเมิดสิทธิมนุษยชน
ที่ผ่านมาได้มีการบิดเบือนข้อมูลเพื่อทำลายภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของเจ้าหน้าที่มาโดยตลอด
พร้อมทั้งได้มีการนำข้อมูลไปเรียกร้องกับองค์กรระหว่างประเทศเพื่อทำการยกระดับปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้นำไปสู่ระดับสากล…
เพราะฉะนั้นอยากจะตั้งคำถามไปยังเครือข่ายภาคประชาสังคมเพื่อสันติภาพ...ที่ทำการเคลื่อนไหวอยู่ทุกวันนี้
เพื่อต้องการสันติภาพ...สร้างสันติสุขให้กับประชาชน หรือเคลื่อนไหวเพื่อใคร?
หรือเพื่อเงินทุนสนับสนุนที่อันแสนจะโอชะกันแน่?....
-------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น