พฤติกรรมชั่วโจรใต้ฟาตอนี...มุ่งทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์
‘แบดิง โกตาบารู’
“มารา ปาตานี” ได้มีความเห็นพ้องร่วมกันในการพูดคุยเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้ง และความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ร่วมกับรัฐบาลไทย
ภายใต้การอำนวยความสะดวกของรัฐบาลมาเลเซีย ซึ่งในการพูดคุยสัญญาณสันติสุขเริ่มดีขึ้นตามลำดับ
จากภาพลางๆ ขมุกขมัว เริ่มเห็นความชัดเจนขึ้นท่ามกลางความขัดแย้งที่สะสมมานานนับสิบปี
แต่ในอีกมิติหนึ่งขณะที่การพูดคุยสันติสุขกำลังเข้มข้นและตั้งท่าจะไปได้ดี
แต่สถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้กลับคุกกรุ่นไปด้วยเสียงปืน เสียงระเบิด และกลิ่นคาวเลือด
เจ้าหน้าที่และประชาชนผู้บริสุทธิ์ รวมทั้งเป้าหมายอ่อนแอยังคงตกเป็นเป้าการโจมตีของกลุ่มขบวนการโจรใต้ฟาตอนีอย่างต่อเนื่อง
เหตุร้ายรายวันที่ยังคงเกิดขึ้นเป็นปัญหาในระดับต้นๆ
ที่การพูดคุยในเวทีแก้ปัญหาความขัดแย้งจะต้องให้ความสำคัญเพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
ผู้เขียนขอหยิบยกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้วงเวลาที่ผ่านมาซึ่งเมื่อมีการสืบสวนและพิสูจน์หลักฐานชี้ชัดแล้วว่า
เกิดจากการกระทำของกลุ่มกระบวนการอย่างชัดเจน
เหตุการณ์ที่ 1 เมื่อ
26 ก.ย.58 คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนยิงใส่รถบรรทุกสินค้า บริษัทสุรีย์ ทรานสปอร์ต ขณะวิ่งอยู่บนถนนสายปัตตานี-หาดใหญ่ ในพื้นที่
ม.4 ต.บางเขา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ทำให้นายดุลย์ พันธุ์ช่วง พนักงานขับรถได้รับบาดเจ็บกระสุนเข้าบริเวณหน้าท้อง
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บรวบรวมปลอกกกระสุนปืนเล็กกล
ขนาด .223 (5.56 มม.) จำนวน 16 ปลอก ส่งพิสูจน์หลักฐานหาความเชื่อมโยงของคดี
ผลการตรวจพิสูจน์ปลอกกระสุนปืนของกลางทั้งหมด
พบว่าใช้ยิงมาจากปืนกระบอกเดียวกัน และปืนกระบอกดังกล่าวคนร้ายเคยใช้ก่อเหตุยิงฐานปฏิบัติการทหารพราน
ร้อย ทพ.2212 ในพื้นที่ ม.2 ต.กะโด อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เมื่อ 28 พ.ค.58
เหตุการณ์ที่ 2 เมื่อ 30
ก.ย.58 คนร้ายใช้อาวุธปืนสงคราม และปืนพก ยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจร้อยตระเวนชายแดนสังกัด
ชฝต.4414 เสียชีวิต จำนวน 2 นาย เหตุเกิดในพื้นที่ บ.ตะเหลี่ยง ม.4 ต.เกาะสะท้อน
อ.ตากใบ
หลังจากเกิดเหตุ
เจ้าหน้าที่ได้ทำการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว
คือ นายมูหามะซาเฟียน มะสะ ราษฎรบ้านจาแบปะ ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ
นำตัวมาทำการซักถาม
ผลการซักถาม นายมูหามะซาเฟียน มะสะ
ให้การยอมรับว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนเสียชีวิต
2 นาย โดยได้รับการบงการจากระดับแกนนำให้ตนเองโทรศัพท์ลวงผู้เสียชีวิตให้ออกจากฐาน
และให้กลุ่มแนวร่วมใช้อาวุธปืนสงคราม และปืนพก กระหน่ำยิงจนถึงแก่ชีวิต
และยังเปิดเผยอีกว่าตนเองมีส่วนร่วมโจมตีฐานปฏิบัติการตำรวจน้ำ อ.ตากใบ
จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 20 ต.ค.55
เหตุการณ์ที่ 3 เมื่อ
3 ต.ค.58 คนร้ายจำนวน 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะใช้อาวุธปืนเอเค 47 ทำการยิงนายเซะ ยูนุ๊ บิดาของนายอับดุลเลาะ
ยูนุ๊ ผู้ต้องหาตามหมายจับ ป.วิอาญา คดีความมั่นคงเสียชีวิต
ผลการตรวจพิสูจน์ปลอกกระสุน
คนร้ายใช้อาวุธปืนเอเค 47 จำนวน 2 กระบอกด้วยกันยิงนายเซะ ยูนุ๊ ซึ่งอาวุธปืนหนึ่งในสองกระบอกนั้นทำการตรวจสอบพบปลอกกระสุนมีประวัติในสารบบเคยใช้ทำการก่อเหตุ เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.57
จากกรณีเจ้าหน้าที่ทหาร ร้อย ร.15131 ได้ทำการปิดล้อมบนภูเขาเมาะแต
ในพื้นที่บ้านกือเล็งตก ม.4 ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส
และได้เกิดปะทะกับกลุ่ม ผกร.
เหตุการณ์ที่ 4 เมื่อ
4 ต.ค.58 เหตุคนร้ายยิง ส.อ.มูหะหมัด สีละ อายุ 30 ปี สังกัดหน่วยข่าวกรองทางทหาร กองพลทหารราบที่ 15 เสียชีวิต ก่อนหลบหนีคนร้ายรื้อค้นเอาอาวุธปืนสงครามและปืนพกประจำกายผู้เสียชีวิตไปด้วย
เหตุเกิดในพื้นที่หมู่ที่ 3 บ้านบือแนนากอ ต.บาลอ อ.รามัน จ.ยะลา
เบื้องต้นคาดว่าเป็นฝีมือกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบต้องการสร้างสถานการณ์เป็นฝีมือของกลุ่ม
ผกร.กลุ่มเดียวกันที่เคยก่อเหตุยิงถล่มรถเก๋งของทหารชุดปฏิบัติการหมวดปืนเล็ก
ร้อย ร.15221 หน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 12
เหตุการณ์ที่ 5 เมื่อ
5 ต.ค.58 กลุ่ม ผกร. ทำการลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารพราน ร้อย ทพ.4212 ฉก.ทพ.42
บริเวณบ้านหนองแรด ต.หนองแรด อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี บาดเจ็บ จำนวน 4 นาย โดย ผกร.หวังใช้วิธีการจุดระเบิด
และเข้าทำการยิงซ้ำเพื่อแย่งชิงอาวุธประจำกายแต่ไร้ผล
เหตุการณ์ที่ 6 เมื่อวันที่ 6
ต.ค.58 เหตุคนร้ายยิง นายสุขฑา บากา อายุ 31 ปี เสียชีวิตจมกองเลือดข้างรถจักรยานยนต์ของตัวเอง
เหตุเกิดในพื้นที่บ้านเตียง บ้านย่อยของบ้านลือเน็ง หมู่ 2 ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา
จากการตรวจสอบพบว่า
นายสุขฑาฯ เคยต้องคดีความมั่นคงในพื้นที่ อ.ยะหา จ.ยะลา
และได้เข้ารายงานตัวแสดงตนเพื่อความบริสุทธิ์ใจกับ “ศูนย์ยะลาสันติสุข”
(Yala Peace Outreach Center : YPOC) ของจังหวัดยะลา
โดยในขณะนั้นมีนายเดชรัฐ สิมศิริ เป็น ผวจ.ยะลา
พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ตำรวจ ทหาร ร่วมเป็นสักขีพยานในการรายงานตัว
เมื่อวันที่ 31 มี.ค.55และได้รับการประกันตัวโดย
“ผู้นำสี่เสาหลัก” กลับไปใช้ชีวิตตามปกติกับครอบครัวและถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต
เหตุการณ์ที่ 7 เมื่อ
8 ต.ค.58 เวลา เหตุคนร้ายประกบยิงนายซุ่ยบี้ ชูช่วยคำ อายุ 79 ปี และ นางนวลศรี ณ
ตะกั่วป่า เสียชีวิต 2 รายอย่างเหี้ยมโหด ขณะขับรถยนต์
ไดฮัทสุ รุ่นมิร่า สีเขียวทะเบียน บง 2245 ปัตตานี เพื่อไปขายอาหารสด (เนื้อหมู)
ในพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เหตุเกิดบริเวณสะพานฮูแตบองอ
ม.6 ต.ปุโละปุโย อ.หนองจิก จ.ปัตตานี
เหตุการณ์อีกหลายเหตุที่ผู้เขียนไม่ได้หยิบยกขึ้นมาสื่อ หลายๆ
เหตุการณ์เป็นคดีอาชญากรรม ที่เกิดจากความขัดแย้งส่วนตัว
ขัดแย้งในเรื่องผลประโยชน์ที่มักลงเอยด้วยการตัดสินปัญหาด้วยการเข่นฆ่าลอบทำร้ายกัน
และมักฉวยโอกาสสร้างความเนียนให้เป็นเรื่องของความมั่นคง
เหตุการณ์ข้างต้นมีผู้ที่เสียชีวิตจากการถูกคนร้ายลอบยิงที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มขบวนการ
ไม่ว่าจะเป็นพ่อของสมาชิก ผกร.ซึ่งมีหมาย ป.วิอาญา
หรืออดีตแนวร่วมที่เข้ารายงานตัวแสดงตนกับทางราชการถูกลอบยิงจนเสียชีวิต และในเวลาต่อมาพบว่า
กลุ่มขบวนการ ผกร. มีการใช้สื่อทำการโฆษณาชวนเชื่อ
บิดเบือนข้อเท็จจริงกล่าวหาว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ
ได้สร้างความเสื่อมเสีย และความเข้าใจที่ผิดๆ ให้กับประชาชน
แต่สุดท้ายเมื่อมีการตรวจพิสูจน์หลักฐานได้รับการยืนยันแล้วว่าเป็นฝีมือของกลุ่ม
ผกร.
ผู้เขียนนำเหตุการณ์มาสื่อซ้ำมิได้ตั้งใจเพื่อซ้ำเติมปัญหาและทำการขยายผลเพื่อสื่อถึงความรุนแรงใดๆ
ทั้งสิ้น แต่เพื่อเปิดโปงพฤติกรรมชั่วช้าของกลุ่มขบวนการโจรใต้ที่ยังคงมุ่งทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์อย่างไร้ความปราณี
และไร้ซึ่งอุดมการณ์ แต่กลับไม่มีความรับผิดชอบ แต่เป็นที่น่ายินดีในปัจจุบันนี้ประชาชนต่างรู้เท่าทันไม่ตกเป็นเครื่องมือของโจรใต้เหล่านี้
และเอือมระอาต่อการกระทำของขบวนการโจรใต้ฟาตอนีเต็มกลืน...ผู้คนส่วนใหญ่ต้องการอยู่อย่างสงบสุข
อยากได้สันติสุขกลับคืนมาสู่พื้นที่แห่งนี้ในเร็ววัน...มีเพียงกลุ่มคนน้อยนิดที่ยังสร้างความปั่นป่วนให้คนส่วนใหญ่ต้องได้รับความเดือดร้อน....
-------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น