โถ้ๆๆ นานๆ จะเปิดไอ้โม่งสักทีกับการออกมาแถลงการณ์ของกลุ่มขบวนการ
BRN
ท่ามกลางเหตุรุนแรงเสียงระเบิดควันปืนที่เกิดขึ้นหลายครั้งที่ผ่านมา
เป็นก่อเหตุโจมตีเพื่อแสดงความมีตัวตนของกลุ่มขบวนการว่า “นักรบฟาตอนี” ยังคงมีอยู่อย่างกว้างขวาง
ให้เห็นว่าเป็นการก่อเหตุป่วนใต้โดยกลุ่มขบวนการ เมื่อวันที่ 7 เม.ย. ที่ผ่านมา
หวังการตั้งเงื่อนไขให้ทางการไทยยอมรับ เพื่อเข้าร่วมในการพูดคุยเพื่อสันติสุข
หลังจากการแถลงการณ์ เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมานี้
การแถลงการณ์ในครั้งนี้
กลุ่ม BRN
เลือกที่จะสื่อสารผ่านสื่อต่างประเทศเป็นหลัก
โดยรายงานข่าวปรากฏออกมาก่อนใน AFP, Asia Times และอับดุลการิมได้ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีไทย หัวใจสำคัญของแถลงการณ์อยู่ที่ข้อเสนอ 3 ข้อดังนี้
โดยรายงานข่าวปรากฏออกมาก่อนใน AFP, Asia Times และอับดุลการิมได้ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีไทย หัวใจสำคัญของแถลงการณ์อยู่ที่ข้อเสนอ 3 ข้อดังนี้
1.
การพูดคุยต้องเกิดจากความต้องการของทั้งสองฝ่ายซึ่งสมัครใจที่จะหาทางออกร่วมกันและจะต้องมีบุคคลที่สาม
(ประชาคมนานาชาติ) เป็นผู้สังเกตการณ์
2.
ผู้ไกล่เกลี่ยต้องมีความน่าเชื่อถือและมีคุณสมบัติที่เป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติ
ของนานาชาติ เช่น ต้องมีความเป็นกลาง ต้องไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ผู้ไกล่เกลี่ยจะต้องดำเนินการพูดคุยตามกระบวนการที่คู่เจรจาทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกัน
ของนานาชาติ เช่น ต้องมีความเป็นกลาง ต้องไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ผู้ไกล่เกลี่ยจะต้องดำเนินการพูดคุยตามกระบวนการที่คู่เจรจาทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกัน
3.
กระบวนการเจรจานั้นต้องได้รับการออกแบบและได้รับความเห็นชอบจากคู่เจรจาทั้งสองฝ่ายก่อนเริ่มต้น
BRN ยอมรับเหตุการณ์ความไม่สงบหลายครั้งที่คร่าชีวิตเจ้าหน้าที่และชาวบ้านผู้บริสุทธิ์
เป็นฝีมือของกลุ่ม BRN
นายอับดุล
การิม ยืนยันว่า เขาคือ "สมาชิก" ของ "แผนกข่าวสาร" ของ BRN
เขายอมรับว่าเหตุการณ์ความไม่สงบหลายครั้ง ที่คร่าชีวิตทหาร ตำรวจ และพลเรือน เป็นฝีมือของกลุ่ม BRN รวมทั้งเหตุยิงถล่มจุดตรวจร่วม 3 ฝ่าย ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชุมชนกลางตลาดกรงปินัง
ม.7 บนถนนเส้นทางสาย 410 สายยะลา - เบตง ต.กรงปินัง อ.กรงปินัง จนเป็นเหตุให้ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 10 นาย เมื่อคืนวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมาก็เป็นฝีมือของกลุ่ม BRN เช่นเดียวกัน
เขายอมรับว่าเหตุการณ์ความไม่สงบหลายครั้ง ที่คร่าชีวิตทหาร ตำรวจ และพลเรือน เป็นฝีมือของกลุ่ม BRN รวมทั้งเหตุยิงถล่มจุดตรวจร่วม 3 ฝ่าย ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชุมชนกลางตลาดกรงปินัง
ม.7 บนถนนเส้นทางสาย 410 สายยะลา - เบตง ต.กรงปินัง อ.กรงปินัง จนเป็นเหตุให้ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 10 นาย เมื่อคืนวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมาก็เป็นฝีมือของกลุ่ม BRN เช่นเดียวกัน
รวมๆ การแถลงการณ์ของ BRN
ในครั้งนี้ต้องการเรียกร้อง ให้รัฐบาลไทยแสดงความจริงใจในการแก้ไขปัญหาโดยการพูดคุย
เพื่อการเปลี่ยนตัวทีมคณะพูดคุยและเปลี่ยนประเทศอำนวยความสะดวก (ผู้ไกล่เกลี่ย
มาเลเซีย) เนื่องจากประเทศไทยกับประเทศมาเลเซีย มีผลประโยชน์ร่วมกันว่า
การแถลงการณ์ในครั้งนี้ทำให้มองเห็นถึงความสัมพันธ์และความรู้สึกของกลุ่ม BRN
ที่มีต่อมาเลเซีย“ทั้งรักทั้งกลัว” มาเลเซีย ทั้งที่รู้กันดีว่าผู้นำและสมาชิกของ
BRN หลายคน ที่เป็นอีแอบอาศัยอยู่บ้านคนอื่นซุกหัวนอน (ขณะตายก็ยังตายที่บ้านคนอื่น)
การไม่ยอมบางเรื่อง อาจทำให้ถูกจับกุมส่งกลับประเทศไทยได้ ทำให้มาเลเซียมีอำนาจบีบบังคับ กลุ่ม BRN
ให้จำยอมบางสถานการณ์ อีกทั้งยังร้องขอให้ประชาคมนานาชาติเข้ามามีส่วนร่วมในฐานะผู้สังเกตการณ์และการปฏิบัติตามหลักสากล
ซึ่งหากเป็นไปได้ก็จะทำให้บีอาร์เอ็นมีอิสระในการต่อรองกับทางการไทยมากขึ้น
ท่าทีของ
BRN
โดยการสร้างความเดือดร้อนต่อพี่น้องประชาชนที่ผ่านมา
การก่อเหตุรุนแรงที่ผ่านมาทำต่อ
ชาวบ้าน ครูและเจ้าหน้าที่รัฐ ชาวบ้านเขารู้กันทั่วไปว่าเป็นฝีมือของกลุ่มขบวนการ แล้วโยนความผิดมาให้เจ้าหน้าที่รัฐ
ชาวบ้านส่วนใหญ่เขาไม่เชื่อและรู้สึกหวาดกลัว แต่เมื่อกลุ่มขบวนการ BRN
ได้ก่อเหตุไว้ วันเวลาผ่านไประยะหนึ่ง
ชาวบ้านเขาเริ่มเบื่อหน่ายความรุนแรง หันมาให้ความร่วมมือกับฝ่ายรัฐ
เพราะเห็นผลงานที่มี ไม่ว่าจะเป็นการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังด้วยความยุติธรรม
การพัฒนาเศรษฐกิจให้ชาวบ้านมีรายได้เพิ่มขึ้น ได้เห็นความจริงใจของเจ้าหน้าที่ในการพูดคุยสันติสุข
และโครงการดีๆ อย่างโครงการพาคนกลับบ้าน ด้วยเหตุนี้ BRN จึงต้องดิ้นๆ
เพื่อต่อลมหายใจ แต่ยิ่งดิ้น ยิ่งเหมือนรัดตัวแน่นขึ้น เพราะการแถลงการณ์นี้
มันตอกย้ำว่า BRN เป็นผู้ก่อความรุนแรงทุกครั้งที่ผ่านมาจริงๆ
รัฐบาลไทย
เมินเงื่อนไขข้อเรียกร้องของ กลุ่ม BRN
เมื่อวันที่
11 เม.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
กล่าวถึงกรณีกลุ่มบีอาร์เอ็นออกแถลงการณ์ประกาศพร้อมเข้าร่วมพูดคุยสันติสุขและตั้งเงื่อนไขต่างๆ
ว่า ขออย่าขยายความการเผยแพร่ข่าวของกลุ่มต่างๆ
ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพูดคุยสันติสุข ซึ่งไม่ว่าใครที่อยากจะออกมาพูดคุย
ต้องประสานมาเลเซีย ในฐานะผู้อำนวยความสะดวก
เพราะรัฐบาลไม่สามารถพูดคุยกับคนที่มีรายชื่อในกลุ่มก่อความไม่สงบภายในประเทศได้
โดยกลุ่มดังกล่าวถือว่าเป็นกลุ่มเห็นต่างที่มีส่วนน้อยเท่านั้น และประเทศไทยสามารถแก้ไขปัญหาของตัวเองได้
และไม่จำเป็นต้องใช้องค์กรต่างประเทศ
ขอให้เชื่อถือรัฐบาลเพราะต้องทำให้สถานการณ์สงบโดยเร็ว
นี้ละน่า
กลุ่มขบวนการที่ไร้สำนึกคุณแผ่นดิน
อยู่แผ่นดินประเทศไหนก็ทรยศแผ่นดินประเทศนั้น
ขนาดอยู่แผ่นดินไทยก็หนีไปอยู่แผ่นดินมาเลเซียแอบอาศัยซุกหัวนอนคอยเป็นปลิงกินเลือดเขาอยู่
ทั่งที่แผ่นดินเขายอมเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการเจรจาพูดคุยสันติสุขให้กับกลุ่มของตน
แต่มาวันนี้กลับบอกว่าแผ่นดินมาเลเซียไม่เป็นกลาง ไม่น่าเชื่อถือ ไม่ปฏิบัติตามหลักสากล
มีผลประโยชน์ทับซ้อน กลุ่มขบวนการ BRN ไม่เคยสำเนียกตัวเองบ้างเลยว่า
ตนเองมีที่ซุกหัวนอนจากแผ่นดินมาเลเซีย กินข้าวเขา นอนบ้านเขา ขี้ใส่แผ่นดินเขา เหยียบอยู่แผ่นดินเขา
แต่เมื่อกลุ่มตนเองไม่ได้ผลประโยชน์ก็พร้อมร้องขอเปลี่ยนผู้อำนวยความสะดวก
เพื่อหวังผลประโยชน์ของกลุ่มตนเองเท่านั้น
หยุดเถอะ อย่าพยายามดิ้นรนอีกเลย
เข้าไปเสนอตัวกับประเทศมาเลเซียที่เป็นประเทศอำนวยความสะดวก
เพื่อรวมเวทีพูดคุยเสีย เพราะถ้าดิ้นไปในทางอื่นทางที่รุนแรง
จะทำให้เชือกรัดคอตัวเองและจบลงแบบไร้ที่ยืนอย่างแน่นอน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น