กะกันดา
เป็นไปได้จริง
ๆ กับการจัดฉากใส่ร้ายเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ในสามจังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งการทำลักษณะนี้มีมานานแล้ว
โดยเฉพาะกลุ่มองค์กรที่เคลื่อนไหวให้กับปีกการเมืองให้กับกลุ่มอาชญากรชายแดนใต้ อย่างเช่น
กลุ่มนักศึกษา PerMas กลุ่มนักสิทธิเพื่อโจรร้าย
อย่าง มูลนิธิผสานวัฒนธรรม กลุ่มด้วยใจ
องค์กรอุปโลก HAP รวมถึงนักวิชาการอาจารย์บางมหาลัยและสื่อแนวร่วม ซึ่งที่ผ่านมามีการปลุกระดมสร้างกระแสกล่าวโจมตีการละเมิดเกินความเป็นจริง กล่าวหาใส่ร้ายแต่งเติมอักษรผ่านสื่อโซเชียล
ขณะที่เจ้าหน้าที่ก็พยายามอย่างมากในการสร้างความเข้าใจด้วยแนวทางสันติวิธีมากกว่าการบังคับใช้กฎหมายในการแก้ปัญหาเรื่องนี้
แต่ดูเหมือนว่ากลุ่มพวกนี้ไม่เข้าใจหรือมีความพยายามจะไม่เข้าใจ ระยะหลังมีการโจมตีการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ
ทั้งที่ผลการควบคุมตัวของผู้ต้องสงสัยมีการซัดทอด
เจ้าหน้าที่ก็จำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายในการดำเนินติดตามตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าผู้ที่ถูกซัดทอดเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดด้วยหรือไม่ โดยใช้วัตถุหลักฐานในที่เกิดเหตุและ DNA
ตามหลักนิติวิทยาศาสตร์ตามหลักสากลที่ทั่วโลกให้การยอมรับ แต่กระนั้นกลุ่มเชื้อมะเร็งร้ายพวกนี้ก็ยังคอยยั่วยุปลุกระดมความรู้สึกคนในพื้นที่ว่าเจ้าหน้าที่ละเมิดสิทธิ
จับแพะ ซ้อมทรมาน ทั้งที่ไม่เป็นเรื่องจริง จนมุมมองของคนในพื้นที่หรือคนนอกพื้นที่เองมองว่า
การมีพวกมากย่อมอยู่เหนือกฎหมายความถูกต้องไปแล้ว
ขณะที่สื่อหลักอย่าง “ผู้จัดการออนไลน์”
กลายร่างร่วมสร้างความสับสนให้กับสังคม สื่อที่ไม่มีจรรยาบรรณ
ยอมเป็นเครื่องมือสร้างความเอนเอียงในการรับรู้ข่าวสารไม่เป็นกลางในการนำเสนอ
แต่ดูไปแล้วตั้งใจในการนำเสนอเพื่อสร้างความเสียหายให้กับหน่วยความมั่นคงในการแก้ไขปัญหาสร้างความเข้าใจให้กับคนในพื้นที่ซะมากกว่า
เป็นกระบอกเสียงสร้างความเกลียดชัง เพื่อแลกกับผลประโยชน์ให้กับสำนักข่าวตัวเอง
เป็นกระบอกเสียงสร้างความเกลียดชัง เพื่อแลกกับผลประโยชน์ให้กับสำนักข่าวตัวเอง
สำนักข่าวผู้จัดการออนไลน์ นำเสนอข้อมูลที่บิดเบือนความจริงไม่พอกลับยังกล้าจัดฉากสร้างเรื่องใส่ร้ายเจ้าหน้าที่ทหารพราน
43 ว่าซ้อมทรมาน
ทั้งที่เรื่องจริงสำนักข่าวนี้ไม่เคยทำเรื่องไปสอบถามตรวจสอบข้อเท็จจริงของหน่วยซักถามเลย แต่กลับกล่าวอ้างสร้างละครปั่นกระแส
ว่าแฉอดีตผู้ต้องสงสัยซ้อมทรมาน ส่งผลให้มีการตรวจสอบบทความหรือบทสัมภาษณ์ที่ลงในสื่อนั้นไม่เป็นความจริง
นำมาสู่การฟ้องร้องดำเนินคดีทางแพ่งเรียกร้องค่าเสียหาย 10 ล้านบาท และดำเนินคดี พ.ร.บ. คอมฯ เมื่อวันที่ 9 ก.พ.
61 ที่ผ่านมา การนำเสนอข่าวสารเพื่อทำลายหน่วยความมั่นคง ซ้ำเติมปัญหาความไม่สงบในพื้นที่โดยการจัดฉากละครสัมภาษณ์ใส่ร้ายคนอื่น
มันคืออาชญากรรมที่เลวร้ายที่สุดโดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความละเอียดอ่อน ณ ที่แห่งนี้
ยิ่งต้องให้ความสำคัญในการนำเสนอข้อมูลข้อเท็จจริง หรือเป็นเพราะสำนักข่าวผู้จัดการออนไลน์
บรรณาธิการและผู้สื่อข่าวในสำนักไม่มีจรรยาบรรณสื่อในจิตใจหรืออย่างไร ถึงได้โกหกหลอกลวงจัดฉากละครเท็จเยี่ยงนี้
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าที่ผ่านมาสำนักข่าวผู้จัดการออนไลน์เสนอข่าวเท็จไร้ข้อเท็จจริงไปแล้วกี่รอบ?
น้ำลดต่อผุด
องค์กรนักสิทธิช่วยเหลือโจรร้ายชายแดน รับลูกแถลงการณ์ทันควัน โดยออกแถลงการณ์กดดันให้รัฐถอนฟ้องต่อสำนักข่าวผู้จัดการออนไลน์
แต่ถ้าใครอ่านในบทความเรื่องการแฉทรมานของสำนักข่าวผู้จัดการออนไลน์
ก็จะรู้ว่า มีการสมมุติตัวละครจาก บทละครรายงานซ้อมทรมานของนักสิทธิ เมื่อ ปี 57-
58 ที่มีการรายงานสู่สาธารณะ ก่อนจะมีการตรวจสอบบทละครจากหลายหน่วยงานปรากฎว่าไม่เป็นเรื่องจริง และถูก กอ.รมน.ภาค 4 สน. ฟ้องร้องในที่สุด
ก่อนที่จะให้มีการถอนฟ้องเพื่อการสร้างบรรยากาศการทำงานร่วมกัน มาวันนี้ถึงบทเรียนราคา 10 ล้าน ต่อการรับผิดชอบของผู้จัดการออนไลน์ที่สร้างเรื่องเท็จโกหกพี่น้องประชาชนบ้าง
ว่าจะรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเองอย่างไร? และกลุ่มนักสิทธิช่วยโจรอาชญากรทั้งหลายจะมีความสำเนียกและมีจิตสำนึกของตนเองหรือไม่?
หรือจะเร่งทำผลงานทำลายภาพลักษณ์ของประเทศตัวเองต่อไปเพื่อสนองตัณหาเศษเงินที่ได้รับจากต่างชาติ ก็ขอให้พี่น้องประชาชนพิจารณาติดตามพฤติกรรมของกลุ่มองค์กรสื่อและนักสิทธิฯ
เหล่านี้ต่อไป ทำไมหน้าด่านหน้าทน
ประชาชนด่าก่นกันทั้งประเทศยังไม่สำนึกรู้สึกตัว
ก้มหน้าก้มตาซ้ำเติมเชื้อไฟให้ร้ายประเทศชาติตนเอง กลุ่มที่อ้างตนว่าเป็นสื่อเป็นนักสิทธิฯ มีพฤติกรรมแบบนี้มันสมควรเรียกว่าอะไร? ช่วยตอบที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น