2/02/2561

เหตุแค้นส่วนตัวฆ่าล้างครัวมะมัน.. สู่ฆาตกรรมต่อเนื่องชาวไทยพุทธ

"แบมะ ฟาตอนี"


          เหตุการณ์ค่ำคืนวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2557 หรือ 4 ปีที่แล้ว กรณีคนร้ายบุกยิงนายเจ๊ะมุ มะมัน พร้อมครอบครัวขณะกลับจากมัสยิด ส่งผลให้ลูกชายนายเจ๊ะมุฯ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 3 คน ส่วนนายแจ๊ะมุฯ และภรรยาได้รับบาดเจ็บ นับเป็นเหตุสะเทือนขวัญที่คนร้ายได้ลงมือกระทำต่อเด็ก ในพื้นที่ จชต.ต่างมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงสาเหตุและแรงจูงใจในการลงมือก่อเหตุของคนร้ายที่ต้องการล้างครัว "มะมัน " พร้อมๆ กับการปล่อยข่าวมุ่งปมสงสัยมายังเจ้าหน้าที่และเรียกร้องให้นำคนร้ายมาลงโทษโดยเร็ว

          ครบรอบ 1 เดือนของการเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้จำนวน 2 ราย คือ อส.ทพ.มะมิง บินมามะ อายุ 22 ปี และ อส.ทพ.ซากือระ เจ๊ะแซ อายุ 25 ปี บุคคลทั้งสองสังกัดหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 โดยเป็นการจับกุมตามหมายจับที่ จ.77/2557 และ 78/2557 ลงวันที่ 1 มี.ค.57 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำตัวผู้ต้องหามาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน และผู้ต้องหาได้ให้การยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุทำไปเพื่อเป็นการล้างแค้นจากเรื่องส่วนตัว (เนื่องจากปักใจเชื่อว่านายเจ๊ะมุฯ เป็นผู้ลงมือฆ่าพี่ชายของตนเองเสียชีวิต และพี่สะใภ้ขณะกำลังตั้งครรภ์ได้ 4 เดือน) และยังให้การต่อไปอีกว่าการกระทำในครั้งนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับหน่วยงานภาครัฐที่ตนเองสังกัดเป็นทหารพรานอยู่

          ภายหลังถูกจับกุมทหารพรานทั้งสองถูกปลดออกจากราชการ จึงกลายเป็น "อดีตทหารพราน" และไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัว จึงถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำจังหวัดนราธิวาสตลอดมา จนกระทั่งเมื่อวันจันทร์ที่ 26 มกราคม 2558 หรือราว 11 เดือนหลังถูกจับกุม ศาลจังหวัดนราธิวาสจึงมีคำพิพากษา "ยกฟ้อง" เนื่องจาก"ไม่มีประจักษ์พยานยืนยันว่าบุคคลทั้งสองเป็นคนฆ่า มีเพียงคำรับสารภาพของจำเลยเท่านั้น ส่วนภรรยาของผู้เสียหาย คือ น.ส.พาดีละ แมยู ก็ไม่สามารถจดจำใบหน้าของผู้ก่อเหตุได้"

          นั่นคือกระบวนการยุติธรรมในการพิจารณาคดีความว่าไปตามตัวบทกฎหมาย แต่เป็นเพราะมูลเหตุศาลมีอันต้องยกฟ้องผู้ต้องหาทั้งสอง สืบเนื่องจากไม่มีประจักษ์พยานถึงแม้ผู้ต้องหาจะให้คำรับสารภาพก็ตามที และด้วยเหตุนี้เองได้ส่งแรงกระเพื่อมขึ้นระลอกใหม่ของกลุ่มองค์กรแนวร่วม โดยมีกลุ่มนักศึกษา PerMAS เป็นตัวตั้งตัวตีมีการออกแถลงการณ์เรียกร้องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งประกาศให้วันที่ 3 กุมภาพันธ์ของทุกปีเป็นวันเชิงสัญลักษณ์ "วันมนุษยธรรมปาตานี"

เหตุแค้นส่วนตัวฆ่าล้างครัวมะมัน..
                                     สู่ฆาตกรรมต่อเนื่องไทยพุทธอ้างเอาคืน

          กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงได้อาศัยสถานการณ์ดังกล่าวแอบอ้างสร้างความชอบธรรมในการเข่นฆ่าผู้คนอย่างโหดเหี้ยมด้วยการสั่งสมาชิกแนวร่วมฆ่าแล้วจุดไฟเผาชาวไทยพุทธ ยิงพระและประชาชนที่มารอตักบาตรในยามเช้า แล้วมีการโปรยใบปลิวที่เกิดเหตุอ้างเป็นการแก้แค้นให้กับครอบครัว "มะมัน " 6 ชีวิตชาวไทยพุทธต้องสังเวยกับความชั่วร้ายของกลุ่มอาชญากรโจรใต้ในครั้งนั้น ผู้เขียนขอรื้อฟื้นความทรงจำให้กับผู้อ่านถึงแม้ไม่อยากตอกย้ำต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้น แต่เพื่อเป็นข้อมูลช่วยกันไตร่ตรองว่าการที่กลุ่มนักศึกษา PerMAS ออกมาเคลื่อนไหวให้วันที่ 3 กุมภาพันธ์ของทุกปีเป็น "วันมนุษยธรรมปาตานี" สมควรแล้วหรือ!!

          ลำดับเหตุการณ์ความสูญเสียต่อชาวไทยพุทธ วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2557 ถัดจากวันเกิดเหตุ 6 วัน กลุ่มอาชญากรโจรใต้ได้กระทำสิ่งที่ป่าเถื่อนและยอมรับไม่ได้ด้วยการยิงและจุดไฟเผา นางเบญจพร เกื้อทุ่ง ซึ่งมีสามีเป็นตำรวจกลางตลาดนัด เหตุเกิดในพื้นที่ ต.ราตาปันยัง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ซึ่งคนร้ายได้ทิ้งใบปลิวไว้ให้ดูต่างหน้า "นี่คือรางวัลของ 3 พี่น้องที่พวกมึงฆ่าและพวกกูจะฆ่าพวกมึงต่อไป ตราบใดที่พวกมึงยังอยู่ในแผ่นดินกู"

          วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2557 หรือ 3 วันถัดมาหลังฆ่าแล้วเผานางเบญจพร เกื้อทุ่ง อาชญากรโจรใต้ลงมือปฏิบัติการอีกครั้งในพื้นที่อำเภอเดียวบนถนนสายหลัก ด้วยการดักยิง นางสาวศยามล แซ่ลิ้ม พนักงานธนาคารกรุงเทพ สาขาปัตตานี ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์เพื่อกลับบ้าน ร่างของเธอถูกเผาพร้อมกับมีใบปลิวทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ "ถึง ผบ.ทบ.นี่ไม่ใช่ศพสุดท้ายสำหรับ 3 พี่น้อง"

          และก็เป็นไปตามคำขู่ในใบปลิวจริงๆ เมื่อเช้าตรู่ของวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2557 กลุ่มอาชญากรโจรใต้ได้ทำร้ายจิตใจคนไทยทั้งประเทศด้วยการกราดยิงชาวไทยพุทธขณะกำลังตักบาตร ส่งผลให้พระสงฆ์มรณภาพในที่เกิดเหตุ และมีชาวไทยพุทธที่กำลังตักบาตรอยู่เสียชีวิตรวม 4 รายด้วยกัน เหตุครั้งนั้นมีผู้บาดเจ็บ 8 ราย เหตุเกิดในพื้นที่สามแยกบ้านใหม่ ต.แม่ลาน อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี จากเหตุดังกล่าวได้สร้างความหวาดระแวงระหว่างชาวไทยพุทธ-ชาวไทยมุสลิม อีกทั้งยังมีการปล่อยใบปลิว ปล่อยข่าวลือแจ้งเตือนให้พี่น้องมุสลิมระวังเจ้าหน้าที่จะทำร้ายกระจายไปทั่วพื้นที่ ส่งผลให้บรรยากาศแห่งความหวาดกลัวและความหวาดระแวงปกคลุมพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้

          การกราดยิงพระสงฆ์ และพุทธศาสนิกชนที่กำลังตักบาตรจนกระทั่งเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายราย ลักษณะการก่อเหตุมีความคล้ายคลึงกับสองเหตุการณ์ก่อนหน้านั้น มีหลักฐานชี้ชัดว่าได้มีการราดน้ำมันเตรียมจุดไฟเผาพระสงฆ์และชาวบ้านที่เสียชีวิตเช่นกัน แต่ถูกยิงตอบโต้ กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงจึงต้องถอยหนีไปก่อน การฆาตกรรมในลักษณะนี้จึงมิได้เป็นเพียงการหมายเอาชีวิต แต่ต้องการสร้างให้เกิดความสะพรึงกลัวอีกด้วย ต่อมาได้รับการเปิดเผยจากผู้ที่อยู่ในขบวนการ ได้ออกมารายงานตัวแสดงตนต่อทางการว่า "ความโหดเหี้ยมคือแผนการที่ต้องการสร้างให้เกิดความหวาดกลัว และกดดันให้ประชาชนอยู่ภายใต้อำนาจ และต้องการสร้างความแตกแยกระหว่างประชาชน จึงจำเป็นต้องทำทุกวิถีทางโดยไม่เลือกเป้าหมายไม่ว่าจะเป็นไทยพุทธและไทยมุสลิม"

          นั่นคือเหตุการณ์แก้แค้นส่วนตัวฆ่าล้างครัวมะมัน.. สู่ฆาตกรรมต่อเนื่องไทยพุทธ 6 ศพ ฆ่าแล้วเผา อาชญากรโจรใต้สร้างความชอบธรรมด้วยการโปรยใบปลิวอ้างเอาคืน ส่วนกลุ่มนักศึกษา PerMAS ประกาศให้วันที่ 3 กุมภาพันธ์ของทุกปีเป็น "วันมนุษยธรรมปาตานี" สมควรแล้วหรือ!! แล้วชาวไทยพุทธผู้บริสุทธิ์ที่ถูกกระทำล่ะ!! กลับไม่เคยกล่าวถึง....

----------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น