"แบมะ ฟาตอนี"
เหตุการณ์ค่ำคืนวันที่ 3 กุมภาพันธ์
2557 หรือ 4 ปีที่แล้ว กรณีคนร้ายบุกยิงนายเจ๊ะมุ มะมัน
พร้อมครอบครัวขณะกลับจากมัสยิด ส่งผลให้ลูกชายนายเจ๊ะมุฯ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 3
คน ส่วนนายแจ๊ะมุฯ และภรรยาได้รับบาดเจ็บ นับเป็นเหตุสะเทือนขวัญที่คนร้ายได้ลงมือกระทำต่อเด็ก
ในพื้นที่ จชต.ต่างมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงสาเหตุและแรงจูงใจในการลงมือก่อเหตุของคนร้ายที่ต้องการล้างครัว
"มะมัน " พร้อมๆ กับการปล่อยข่าวมุ่งปมสงสัยมายังเจ้าหน้าที่และเรียกร้องให้นำคนร้ายมาลงโทษโดยเร็ว
ครบรอบ 1 เดือนของการเกิดเหตุ
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้จำนวน 2 ราย คือ อส.ทพ.มะมิง บินมามะ
อายุ 22 ปี และ อส.ทพ.ซากือระ เจ๊ะแซ อายุ 25 ปี
บุคคลทั้งสองสังกัดหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 โดยเป็นการจับกุมตามหมายจับที่
จ.77/2557 และ 78/2557 ลงวันที่ 1 มี.ค.57
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำตัวผู้ต้องหามาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
และผู้ต้องหาได้ให้การยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุทำไปเพื่อเป็นการล้างแค้นจากเรื่องส่วนตัว
(เนื่องจากปักใจเชื่อว่านายเจ๊ะมุฯ เป็นผู้ลงมือฆ่าพี่ชายของตนเองเสียชีวิต
และพี่สะใภ้ขณะกำลังตั้งครรภ์ได้ 4 เดือน)
และยังให้การต่อไปอีกว่าการกระทำในครั้งนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ
กับหน่วยงานภาครัฐที่ตนเองสังกัดเป็นทหารพรานอยู่
ภายหลังถูกจับกุมทหารพรานทั้งสองถูกปลดออกจากราชการ
จึงกลายเป็น "อดีตทหารพราน" และไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัว
จึงถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำจังหวัดนราธิวาสตลอดมา จนกระทั่งเมื่อวันจันทร์ที่ 26 มกราคม
2558 หรือราว 11 เดือนหลังถูกจับกุม ศาลจังหวัดนราธิวาสจึงมีคำพิพากษา "ยกฟ้อง"
เนื่องจาก"ไม่มีประจักษ์พยานยืนยันว่าบุคคลทั้งสองเป็นคนฆ่า
มีเพียงคำรับสารภาพของจำเลยเท่านั้น ส่วนภรรยาของผู้เสียหาย คือ น.ส.พาดีละ แมยู
ก็ไม่สามารถจดจำใบหน้าของผู้ก่อเหตุได้"
นั่นคือกระบวนการยุติธรรมในการพิจารณาคดีความว่าไปตามตัวบทกฎหมาย
แต่เป็นเพราะมูลเหตุศาลมีอันต้องยกฟ้องผู้ต้องหาทั้งสอง สืบเนื่องจากไม่มีประจักษ์พยานถึงแม้ผู้ต้องหาจะให้คำรับสารภาพก็ตามที
และด้วยเหตุนี้เองได้ส่งแรงกระเพื่อมขึ้นระลอกใหม่ของกลุ่มองค์กรแนวร่วม
โดยมีกลุ่มนักศึกษา PerMAS เป็นตัวตั้งตัวตีมีการออกแถลงการณ์เรียกร้องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
อีกทั้งประกาศให้วันที่ 3 กุมภาพันธ์ของทุกปีเป็นวันเชิงสัญลักษณ์ "วันมนุษยธรรมปาตานี"
เหตุแค้นส่วนตัวฆ่าล้างครัวมะมัน..
สู่ฆาตกรรมต่อเนื่องไทยพุทธอ้างเอาคืน
กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงได้อาศัยสถานการณ์ดังกล่าวแอบอ้างสร้างความชอบธรรมในการเข่นฆ่าผู้คนอย่างโหดเหี้ยมด้วยการสั่งสมาชิกแนวร่วมฆ่าแล้วจุดไฟเผาชาวไทยพุทธ
ยิงพระและประชาชนที่มารอตักบาตรในยามเช้า แล้วมีการโปรยใบปลิวที่เกิดเหตุอ้างเป็นการแก้แค้นให้กับครอบครัว
"มะมัน " 6 ชีวิตชาวไทยพุทธต้องสังเวยกับความชั่วร้ายของกลุ่มอาชญากรโจรใต้ในครั้งนั้น
ผู้เขียนขอรื้อฟื้นความทรงจำให้กับผู้อ่านถึงแม้ไม่อยากตอกย้ำต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้น
แต่เพื่อเป็นข้อมูลช่วยกันไตร่ตรองว่าการที่กลุ่มนักศึกษา PerMAS ออกมาเคลื่อนไหวให้วันที่ 3 กุมภาพันธ์ของทุกปีเป็น "วันมนุษยธรรมปาตานี" สมควรแล้วหรือ!!
ลำดับเหตุการณ์ความสูญเสียต่อชาวไทยพุทธ
วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2557 ถัดจากวันเกิดเหตุ 6 วัน
กลุ่มอาชญากรโจรใต้ได้กระทำสิ่งที่ป่าเถื่อนและยอมรับไม่ได้ด้วยการยิงและจุดไฟเผา
นางเบญจพร เกื้อทุ่ง ซึ่งมีสามีเป็นตำรวจกลางตลาดนัด เหตุเกิดในพื้นที่
ต.ราตาปันยัง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ซึ่งคนร้ายได้ทิ้งใบปลิวไว้ให้ดูต่างหน้า "นี่คือรางวัลของ
3 พี่น้องที่พวกมึงฆ่าและพวกกูจะฆ่าพวกมึงต่อไป
ตราบใดที่พวกมึงยังอยู่ในแผ่นดินกู"
วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2557 หรือ 3 วันถัดมาหลังฆ่าแล้วเผานางเบญจพร
เกื้อทุ่ง อาชญากรโจรใต้ลงมือปฏิบัติการอีกครั้งในพื้นที่อำเภอเดียวบนถนนสายหลัก
ด้วยการดักยิง นางสาวศยามล แซ่ลิ้ม พนักงานธนาคารกรุงเทพ สาขาปัตตานี
ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์เพื่อกลับบ้าน ร่างของเธอถูกเผาพร้อมกับมีใบปลิวทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ
"ถึง ผบ.ทบ.นี่ไม่ใช่ศพสุดท้ายสำหรับ 3 พี่น้อง"
และก็เป็นไปตามคำขู่ในใบปลิวจริงๆ เมื่อเช้าตรู่ของวันที่
13 กุมภาพันธ์ 2557 กลุ่มอาชญากรโจรใต้ได้ทำร้ายจิตใจคนไทยทั้งประเทศด้วยการกราดยิงชาวไทยพุทธขณะกำลังตักบาตร
ส่งผลให้พระสงฆ์มรณภาพในที่เกิดเหตุ และมีชาวไทยพุทธที่กำลังตักบาตรอยู่เสียชีวิตรวม
4 รายด้วยกัน เหตุครั้งนั้นมีผู้บาดเจ็บ 8 ราย เหตุเกิดในพื้นที่สามแยกบ้านใหม่
ต.แม่ลาน อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี
จากเหตุดังกล่าวได้สร้างความหวาดระแวงระหว่างชาวไทยพุทธ-ชาวไทยมุสลิม อีกทั้งยังมีการปล่อยใบปลิว
ปล่อยข่าวลือแจ้งเตือนให้พี่น้องมุสลิมระวังเจ้าหน้าที่จะทำร้ายกระจายไปทั่วพื้นที่
ส่งผลให้บรรยากาศแห่งความหวาดกลัวและความหวาดระแวงปกคลุมพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้
การกราดยิงพระสงฆ์ และพุทธศาสนิกชนที่กำลังตักบาตรจนกระทั่งเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายราย
ลักษณะการก่อเหตุมีความคล้ายคลึงกับสองเหตุการณ์ก่อนหน้านั้น
มีหลักฐานชี้ชัดว่าได้มีการราดน้ำมันเตรียมจุดไฟเผาพระสงฆ์และชาวบ้านที่เสียชีวิตเช่นกัน
แต่ถูกยิงตอบโต้ กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงจึงต้องถอยหนีไปก่อน
การฆาตกรรมในลักษณะนี้จึงมิได้เป็นเพียงการหมายเอาชีวิต
แต่ต้องการสร้างให้เกิดความสะพรึงกลัวอีกด้วย ต่อมาได้รับการเปิดเผยจากผู้ที่อยู่ในขบวนการ
ได้ออกมารายงานตัวแสดงตนต่อทางการว่า "ความโหดเหี้ยมคือแผนการที่ต้องการสร้างให้เกิดความหวาดกลัว
และกดดันให้ประชาชนอยู่ภายใต้อำนาจ และต้องการสร้างความแตกแยกระหว่างประชาชน
จึงจำเป็นต้องทำทุกวิถีทางโดยไม่เลือกเป้าหมายไม่ว่าจะเป็นไทยพุทธและไทยมุสลิม"
นั่นคือเหตุการณ์แก้แค้นส่วนตัวฆ่าล้างครัวมะมัน..
สู่ฆาตกรรมต่อเนื่องไทยพุทธ 6 ศพ ฆ่าแล้วเผา อาชญากรโจรใต้สร้างความชอบธรรมด้วยการโปรยใบปลิวอ้างเอาคืน
ส่วนกลุ่มนักศึกษา PerMAS ประกาศให้วันที่ 3
กุมภาพันธ์ของทุกปีเป็น "วันมนุษยธรรมปาตานี" สมควรแล้วหรือ!!
แล้วชาวไทยพุทธผู้บริสุทธิ์ที่ถูกกระทำล่ะ!! กลับไม่เคยกล่าวถึง....
----------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น