‘แบมะ ฟาตอนี’
ความเคลื่อนไหวของเครือข่ายภาคประชาสังคมเพื่อสันติภาพ
(คปส.) ร่วมกับสำนักปาตานีรายาเพื่อสันติภาพและพัฒนา
(LEMPAR), สมาพันธ์นิสิตนักศึกษามุสลิมแห่งประเทศไทย
(MUSTFETH/สนมท.), สหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียน
และเยาวชนปาตานี (PerMAS) และชมรมอนุรักษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม
ม.อ.ปัตตานี จัดเสวนาชุมชนสาธารณะ ครั้งที่ 3 “ปัญหาโรงไฟฟ้าถ่านหินกับข้อท้าทายบนเส้นทางสันติภาพปาตานี/ชายแดนใต้
: ถ่านหินภัยแทรกซ้อนสันติภาพปัตตานี ความไม่เป็นธรรมจากอำนาจรัฐ และ
กฟผ.ที่กระทำต่อชุมชนปาตานี” ณ มัสยิดบ้านท่าด่าน (กือแด)
บ้านท่าด่าน ต.ตะโละกาโปร์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี โดยมี
นายตูแวดานียา ตูแวแมแง เป็นผู้ดำเนินรายการ
ทำไม?
เครือข่ายภาคประชาสังคมเพื่อกลุ่มขบวนการจึงเลือกใช้มัสยิดบ้านท่าด่าน เป็นสถานที่เสวนา ทำไม? นายตูแวดานียา ตูแวแมแง
จึงนำประเด็นโรงไฟฟ้าถ่านหินมาข้องเกี่ยว กับคำว่าสันติภาพปาตานี
ถึงกับใช้คำว่า“ภัยแทรกซ้อนสันติภาพ”ความไม่เป็นธรรมจากอำนาจรัฐ
ผ่าน กฟผ.กระทำต่อชุมชนปาตานี
เครือข่ายภาคประชาสังคมกำมะลอเหล่านี้เคลื่อนไหวอย่างมีนัยซ่อนเร้น
ยังคงเดินหน้าหลอกหลอนให้ประชาชนมลายูปาตานีหลงเชื่อกับคำโกหกหลอกลวงมาโดยตลอด
ปัญหาที่ควรจะเคลื่อนไหวเพื่อเป็นปากเสียงแทนประชาชน กลับละเลยไม่แยแสกลับมุ่งเคลื่อนไหวเพื่อผลประโยชน์ส่วนตนและองค์กรเป็นหลัก
การใช้วาทกรรม “ถ่านหินภัยแทรกซ้อนสันติภาพปัตตานี” นายตูแวดานียา ผู้นี้คือผู้ที่ค้นคิดวาทกรรมใหม่ๆ มาสาธยายบนเวทีเสวนา ให้ติดปากติดหูเพื่อมุ่งทำลายสันติภาพที่ควรจะเป็น ภัยแทรกซ้อนที่มีผลกระทบกับประชาชนรากหญ้าอย่างปัญหายาเสพติด
ลูกหลานพี่น้องปาตานีทุกหย่อมหญ้าในพื้นที่ต่างตกเป็นทาสของกลุ่มนายทุนค้ายาเพื่อนำเงินเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้กับกลุ่มขบวนการในการก่อเหตุ แต่น่าแปลกใจเครือข่ายภาคประชาสังคมเหล่านี้ไม่เคยกล่าวถึงและรณรงค์ต่อต้าน
แถมกลับทำเงียบเฉยไม่รับรู้ปล่อยให้มหันตภัยเงียบเข่นฆ่าลูกหลาน
ผู้ปกครองต้องทนทุกข์ทรมานเหมือนตายทั้งเป็นยิ่งกว่าปัญหาการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่นายตูแวดานียา
จุดประเด็นซะอีก
ส่วนปัญหาศาลแพ่งสั่งยึดที่ดินโรงเรียนปอเนาะญีฮาด
เช่นเดียวกัน เรื่องราวต่างๆ น่าจะจบลงด้วยดีอย่างมีเหตุมีผลและสมควรแก่เหตุ
แต่เครือข่ายภาคประชาสังคมเพื่อกลุ่มขบวนการ
(ไม่ใช่เครือข่ายภาคประชาสังคมเพื่อสันติภาพที่ได้มีการกล่าวอ้าง)
กลับสร้างละครดราม่าน้ำเน่าไม่ต่างจากละครช่องหลายสี ปลุกปั้นพระเอกหน้าใหม่ นายบันยาล
แวมะนอ ลูกชายของ นายดอเลาะ แวมะนอ
อดีตผู้ร้ายตัวจริงให้โลดแล่นบนเวทีเสวนาเป็นตัวชูโรงเรียกคะแนนสงสารกล่าวหารัฐกลั่นแกล้งประชาชน
ต้องตกระกำลำบาก
กลายเป็นพจมานเร่ร่อนหอบข้าวของออกจากบ้านทรายทองไม่มีที่ซุกหัวนอน
การสร้างภาพกับข่าวสารที่ออกไปช่างแตกต่างจากความเป็นจริงอย่างสิ้นเชิง
จากแหล่งข่าวในพื้นที่ได้ให้ข้อมูลไว้อย่างน่าสนใจ ความจริง“ครอบครัวแวมะนอ”ไม่ได้ลำบากยากจนข่นแค้นตามที่คนทั่วไปเข้าใจกัน
ลองไล่เรียงกลับพบว่ามีฐานะร่ำรวยกันหลายๆ คนในบรรดาญาติพี่น้องทั้งหมดของครอบครัวนี้
ผู้เขียนมีความสงสัยทำไม?
ต้องไปจัดเวทีเสวนาที่มัสยิดท่าด่าน เพื่อเป็นการตอกย้ำอะไรหรือเปล่า
สิทธิเสรีภาพในการจัดเวทีเสวนาที่ไหนไม่มีใครว่า แต่ในขณะที่ผู้นำองค์กรทางศาสนา
จังหวัดชายแดนภาคใต้ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายกำลังมีการตั้งกรรมการพิเศษขึ้นมาคณะหนึ่งในการพิจารณาแนวทางการใช้ประโยชน์ในที่ดินดังกล่าว
ให้สอดคล้องกับความต้องการของชุมชน
และตอบสนองเจตนารมณ์เดิมของเจ้าของที่ดินต่อไปให้เป็นรูปธรรม
แต่เครือข่ายภาคประชาสังคมเพื่อกลุ่มขบวนการ
(ไม่ใช่เครือข่ายภาคประชาสังคมเพื่อสันติภาพที่ได้มีการกล่าวอ้าง) กลับตั้งศูนย์ประสานงานให้ความช่วยเหลือครอบครัวโรงเรียนปอเนาะญีฮาดเพื่อระดมทุน
มีการปลุกปั่นไม่ให้รับความช่วยเหลือจากรัฐ มุ่งเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์ในการเสวนา
เพื่อต้องการผลทางจิตวิทยาสังคม
ซึ่งส่วนมากผู้ที่เข้าร่วมเป็นกลุ่มจัดตั้งขึ้นมาโดยเครือข่ายแนวร่วม
ฝากไปยังประชาชนปาตานีให้ช่วยกันจับตาความเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมภาคประชาสังคมในพื้นที่ที่ออกมาเคลื่อนไหวสร้างกระแส
กล่าวอ้างถึงการไม่ได้รับความเป็นธรรมทางสังคม และยังมีความพยายามดึงองค์กรต่างประเทศเข้ามามีบทบาทในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้บ้านเรา
อีกทั้งมีการปลุกกระแสต่อต้านรัฐ โดยใช้ประเด็นปัญหาโครงการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา
เพื่อยกระดับความขัดแย้งในพื้นที่ ซึ่งเป็นยุทธวิธีในการระดมมวลชนให้เข้าร่วม
จุดกระแสสร้างภาพนำเรื่องราวที่อ่อนไหวและกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนมาเล่น
แต่กลับไม่แยแสถึงความเดือดร้อนของประชาชนส่วนใหญ่ที่ได้รับผลกรทบจากภัยแทรกซ้อนด้านอื่นๆ
และที่สำคัญไม่เคยเห็นองค์กรภาคประชาสังคมเหล่านี้เคลื่อนไหวต่อต้านการกระทำที่รุนแรงของกลุ่มขบวนการที่ทำการเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์รายวัน อีกทั้งมีนัยแอบแฝงในการเคลื่อนไหวเพื่อสันติภาพจริงหรือ?....หรือเคลื่อนไหวเพื่อใครกันแน่?
----------------------