"Ibrahim"
03 กุมภาฯ #วันมนุษยธรรมปาตานี
"มนุษยธรรมกับปาตานีที่ยังมีชีวิต"
รวมพลังกางร่มแห่งสันติภาพและกางร่มบนโปร์ไฟล์โดยพร้อมเพรียงกันทั่วแผ่นดินโดยมี
Concept คือ “มนุษยธรรม กับปาตานีที่ยังมีชีวิต” คนปาตานีมีสิทธิที่จะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสมศักดิ์ศรี
ดำรงไว้ซึ่งความเป็นตัวตนของชนชาติ และอนาคตทางการเมืองของคนปาตานี อีกทั้งเพื่อให้คู่สงครามและประชาชนทุกคนตระหนักถึงความสำคัญคุณค่าของชีวิต
สิทธิของพลเรือนที่ต้องได้รับการปกป้องคุ้มครองจากปฏิบัติการทางการทหาร
เพราะการเคารพหลักมนุษยธรรมกติกาสงคราม (International Humanitarian Law) นั้นเป็นสิ่งสำคัญยิ่งระหว่างการหาทางยุติสงครามด้วยแนวทางทางการเมือง
February 3, Patani Humanitarian Day
Raise an umbrella for peace and use it in your profile picture in all of
the Patani together, with concept "Humanitarian and Patani is still
alive".
Patanian have a right to live with dignity and keep the identity of
nation, also for both sides of war and people to recognize a value of life.
The rights of civilians must be protected from military operations.
The respect to International Humanitarian Law (IHL) is a most important
thing to finding a way to end the war with a political approach.
SAVE PATANIAN
PERLINDUNGAN WARGA SIPIL PATANI
ปกป้องคุ้มครองพลเรือนปาตานี….
นั่นคือการเคลื่อนไหวจุดกระแสล่าสุดของกลุ่มนักศึกษา PerMAS
ย้อนรอย “วันมนุษยธรรมปาตานี”ทำไม? ต้องเป็นวันที่ 3 กุมภาพันธ์
ย้อนกลับไปเมื่อวันอังคารที่ 3 กุมภาพันธ์
2558 กลุ่ม “PERMAS” ร่อนแถลงการณ์ครบรอบ
1 ปี เหตุฆ่าสามพี่น้อง ‘มะมัน’ ในสื่อทุกแขนง
ซึ่งแถลงการณ์สหพันธ์นิสิตนักศึกษา นักเรียน และเยาวชนปาตานี (PerMAS) ดังกล่าวเป็นแถลงการณ์เรื่อง :
การละเมิดหลักมนุษยธรรมสากลในพื้นที่สงคราม อีกทั้งได้ประกาศให้วันที่ 3
กุมภาพันธ์ของทุกปีเป็น “วันมนุษยธรรมปาตานี” และในครั้งนั้น PerMAS ได้เสนอข้อเรียกร้องเพื่อนำมาซึ่งสันติภาพปาตานี
จำนวน 4 ข้อด้วยกัน
เนื้อหาหลักๆ
เรียกร้องให้คู่สงครามทำสงครามภายใต้กฎกติกาสากลและคำนึงถึงหลักกฎหมายมนุษยธรรมสากล
(International
Humanitarian Law), ขอให้ยกระดับกระบวนการตรวจสอบโดยการมีส่วนร่วมของกลไกระหว่างประเทศ, ขอให้ประชาชนภาคประชาสังคมทั้งในและระหว่างประเทศร่วมกันผลักดันให้กระบวนการสร้างสันติภาพที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล
การเรียกร้องในการกำหนดชะตากรรมตนเอง และข้อสุดท้ายเรียกร้องให้สื่อทุกประเภทให้ความสำคัญกับการนำเสนอข้อมูลข่าวสารและข้อเท็จจริงอย่างรอบด้านแก่สังคมสาธารณะ
กลุ่มนักศึกษา PerMAS เคลื่อนไหวเพื่อต้องการสื่อให้สังคมสาธารณะได้ตระหนักถึงความสำคัญคุณค่าของชีวิต
ตระหนักถึงสิทธิของพลเรือนที่ต้องได้รับการปกป้องคุ้มครองจากปฏิบัติการทางการทหาร
โดยผ่านรูปแบบกิจกรรม การแปรอักษรสื่อสารเจตนารมณ์การจัดกิจกรรม โดยใช้ “ร่ม”เป็นสัญลักษณ์การปกป้องพลเรือน ชูป้ายผ้า แจกเอกสารเกี่ยวกับสิทธิพลเรือนในพื้นที่สงคราม
อ่านแถลงการณ์
การเขียนโน้ตสื่อสารโดยการมีส่วนร่วมของนักศึกษาทั่วไปที่เดินผ่านไปมา และประกาศให้วันที่
3 กุมภาพันธ์ของทุกปีเป็นวัน“มนุษยธรรมปาตานี”
ภาพที่ออกมาช่างน่าใจหาย
สลดหดหู่กับแนวความคิดที่ผ่านการเรียกร้อง และสวนทางกับคำว่าปัญญาชนของนักศึกษาที่เรียกขานกลุ่มตนเองว่า
PerMAS
สงสารพ่อแม่ที่ต้องตรากตรำทำงานหนักหาเงินส่งเสียให้ลูกได้เรียน
และบางรายหาไม่ทันต้องขายนา ขายสวนสุดท้ายส่งให้ควายเรียน..
เหตุการณ์ที่ผ่านมามีผู้บริสุทธิ์จำนวนไม่น้อยที่ตกเป็นเหยื่อความรุนแรงถูกฆ่าตายรายวัน
เคยมีสักครั้งให้ชื่นใจมั๊ย!! ที่นักศึกษาปัญญากลวงเหล่านี้พร้อมใจกันออกมาแสดงจุดยืน
แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ถือ(ร่ม) แล้วประกาศสิทธิของพลเรือนปาตานี ประณามความสุดโต่งของผู้ก่อเหตุรุนแรงเหมือนในครั้งนี้
มันคงเป็นไปได้เพราะผู้ที่อยู่เบื้องหลังทำการเชิดหุ่นนักศึกษาเหล่านี้ ต้องบังคับวิถีตามที่ตนเองต้องการ
ซึ่งบทมีการเขียนเอาไว้ล่วงหน้า
จากการตกลงราคาค่าเหนื่อยจากนายทุนและผู้สนับสนุนในการแสดง
แท้จริงแล้ววันที่
3 กุมภาพันธ์ของทุกปีเป็นวันทหารผ่านศึก
เป็นวันที่คนไทยทุกคนควรที่จะให้ความสำคัญ และมีจิตสำนึกยกย่องเกียรติทหารหาญของชาติที่ได้เสียสละชีวิตเลือดเนื้อในการปกปักรักษาป้องกันประเทศนี้ไว้ด้วยชีวิต
แผ่นดินไทยสงบสุขและเป็นไทมาจนถึงทุกวันนี้ มิใช่เป็นเพราะทหารหาญเหล่านี้หรอกหรือ?
ในการเป็นรั้วของชาติป้องกันการรุกรานจากอริราชศรัตรูให้พ้นภัย
แต่นักศึกษาปัญญานิ่ม
PerMAS
กลับประกาศให้วันที่ 3 กุมภาพันธ์ของทุกปีเป็นวัน “มนุษยธรรมปาตานี”ประกาศเป็นวันเชิงสัญลักษณ์เนื่องจากการเสียชีวิตของเด็กน้อยสามศพครอบครัว
“มะมัน” บุตรชายนายเจ๊ะมุ ซึ่งได้เกิดจากปัญหาความขัดแย้งส่วนตัว
ช่างน่าสรรเสริญแนวความคิดของนักศึกษาปัญญาควายจริงๆ ไม่เคารพดวงวิญญาณบรรพชนผู้กล้าที่ปกปักรักษาชาติไว้ให้กับพวกเราแล้ว
กลับนำวันทหารผ่านศึกมาเป็นวันเชิงสัญลักษณ์เสียนี่!!!..ช่างน่าอับอายสิ้นดี..
--------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น