2/07/2562

เด็กฝึกการต่อสู้ หลังปอเนาะ?



          ต่อกรณีที่ ผู้จัดการออนไลน์ เผยแพร่ข่าว เมื่อ 29 ม.ค. 2562 เวลา 19:10 กรณี  นายกการศึกษาปอเนาะฯ ยันเด็กถูก จนท.คุมตัว ไม่ได้ฝึกร่างกาย ระบุเป็นการเล่นของเด็กกัมพูชา สืบเนื่องมาจาก  เมื่อ 29  ม.ค. 62  พ.อ.สมคิด    คงแข็ง ผบ.ฉก.ทพ. 42  นำกำลังเจ้าหน้าที่ปิดล้อมตรวจค้น จับนักเรียนปอเนาะที่เป็นชาวกัมพูชา ที่ไม่มีหนังสือเดินทาง และหนังสือเดินทางหมดอายุ     หลังจากเข้ามาฝึกร่างกายต่อสู้ด้วยมือเปล่า บริเวณสถาบันศึกษาปอเนาะ มัดรอสาตูลฟาละห์ เลขที่ 4 หมู่ 4 ต.ถนน อ.มายอ จ.ปัตตานี เนื่องจากได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีการฝึกร่างกายด้วยมือในปอเนาะ จึงเฝ้าดูพฤติกรรมจนมั่นใจและนำมาสู่การปิดล้อมจับกุม พบผู้ต้องสงสัย 14 คน หนังสือเดินทางหมดอายุ และบางคนไม่มีหนังสือเดินทาง  จึงได้นำมาสอบสวนที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร ซึ่งความคืบหน้าคดีมีดังนี้

          เมื่อวันที่ 28  ม.ค. 62  ฉก.ทพ.42 ได้เข้าควบคุมตัว ผู้ต้องสงสัย จำนวน 14 คน เป็นชาวไทยมุสลิม 3 คน (บาบอ กับผู้ช่วย) เป็นชาวกัมพูชา 11 คน (เยาวชน 3 คน) และนำไปควบคุมตัวที่ ศูนย์ซักถาม ค่ายอิงคยุทธบริหาร
          เมื่อ 30  ม.ค. 62  ปล่อยตัวชาวกัมพูชา 3 คน ชาวไทยมุสลิม (บาบอ) 1 คน ส่วนชาวกัมพูชา 3 คน ซึ่งเป็นเยาวชน ต้องดำเนินคดี  ข้อหาอยู่เกินกำหนด (over stay) 2 คน และหลบหนีเข้าเมือง 1 คน    โดยได้ส่งตัวเข้าสู่กระบวนการกฎหมายเด็กฯ
          เมื่อ  3  ก.พ. 62  ดำเนินการ ส่งตัวชาวกัมพูชา 8 คน  ชาวไทยมุสลิม 2 คน กลับไปที่ สภ.มายอ  รวม 10 คน และแจ้งข้อหา ชาวกัมพูชา อยู่เกินกำหนด 7 คน อีก 1 คน ยังไม่เกินกำหนดฯ มอบให้ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง รับตัวไป ผลักดันกลับประเทศต้นทาง  ส่วนชาวไทย มุสลิม 2 คน ได้รับการปล่อยตัว
           เมื่อ  4  ก.พ. 62  ส่งตัวชาวกัมพูชาทั้ง 9 คน ฟ้องศาลฯ ต่อไป
          สำหรับ เหตุผลและความจำเป็นที่ จนท.รัฐ ต้องบังคับใช้กม.ในพื้นที่ต่อ กลุ่ม ผกร.หรือ ผู้ต้องสงสัยภายใต้อำนาจ กม.พิเศษ ซึ่งจนท.ต้องปฏิบัติด้วยความระมัดระวังในทุกขั้นตอน และต้องมีมาตรการเพื่อป้องกันการตอบโต้ซึ่งมีกรณีตัวอย่างมาโดยตลอด  สำหรับในครั้งนี้ จนท.ก็ไม่สามารถล่วงรู้ได้ว่า บุคคลต้องสงสัยเป็นใคร มีอาวุธหรือไม่ รู้เพียงพฤติกรรมที่น่าสงสัยว่า อาจเป็นการฝึกของ ผกร. ทั้งรูปแบบและท่าทาง ซึ่งไม่ใช่ท่าออกกำลังกายและไม่ใช่เวลาที่บุคคลทั่วไป จะมาออกกำลังกาย
          ฉะนั้นการดำเนินการในครั้งนี้ จนท.รัฐ ไม่ได้มีเจตนาหรือ อคติต่อสถาบันปอเนาะแห่งนี้ เพราะทราบดีว่าสถาบันปอเนาะ  คือ ศูนย์การเรียนรู้ตลอดชีวิตในด้านศาสนาและวัฒนธรรมอิสลาม เพื่อเสริมสร้างให้ชุมชนมีความรู้และความประพฤติที่ดีงามในการดำรงชีพอย่างสันติสุขและมีความรับผิดชอบต่อสังคม ประเทศชาติ จึงไม่มีเหตุผลใดในการเข้าดำเนินการต่อสถานศึกษาศาสนาเหล่านี้  เพียงแต่เป็นการป้องปรามการกระทำที่อาจทำให้เกิดความไม่สงบ เรียบร้อยในพื้นที่ เท่านั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น