ต่อกรณีที่ ผู้จัดการออนไลน์ เผยแพร่ข่าว เมื่อ 29
ม.ค. 2562 เวลา 19:10 กรณี นายกการศึกษาปอเนาะฯ
ยันเด็กถูก จนท.คุมตัว ไม่ได้ฝึกร่างกาย ระบุเป็นการเล่นของเด็กกัมพูชา สืบเนื่องมาจาก
เมื่อ 29 ม.ค. 62 พ.อ.สมคิด คงแข็ง ผบ.ฉก.ทพ. 42 นำกำลังเจ้าหน้าที่ปิดล้อมตรวจค้น จับนักเรียนปอเนาะที่เป็นชาวกัมพูชา
ที่ไม่มีหนังสือเดินทาง และหนังสือเดินทางหมดอายุ หลังจากเข้ามาฝึกร่างกายต่อสู้ด้วยมือเปล่า บริเวณสถาบันศึกษาปอเนาะ
มัดรอสาตูลฟาละห์ เลขที่ 4 หมู่ 4 ต.ถนน อ.มายอ จ.ปัตตานี เนื่องจากได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า
มีการฝึกร่างกายด้วยมือในปอเนาะ จึงเฝ้าดูพฤติกรรมจนมั่นใจและนำมาสู่การปิดล้อมจับกุม
พบผู้ต้องสงสัย 14 คน หนังสือเดินทางหมดอายุ
และบางคนไม่มีหนังสือเดินทาง จึงได้นำมาสอบสวนที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร
ซึ่งความคืบหน้าคดีมีดังนี้
เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 62 ฉก.ทพ.42
ได้เข้าควบคุมตัว ผู้ต้องสงสัย จำนวน 14 คน เป็นชาวไทยมุสลิม 3 คน (บาบอ กับผู้ช่วย) เป็นชาวกัมพูชา 11 คน (เยาวชน 3 คน) และนำไปควบคุมตัวที่ ศูนย์ซักถาม ค่ายอิงคยุทธบริหาร
เมื่อ
30 ม.ค. 62 ปล่อยตัวชาวกัมพูชา
3 คน ชาวไทยมุสลิม (บาบอ) 1 คน ส่วนชาวกัมพูชา 3 คน ซึ่งเป็นเยาวชน ต้องดำเนินคดี ข้อหาอยู่เกินกำหนด (over stay) 2 คน และหลบหนีเข้าเมือง 1 คน โดยได้ส่งตัวเข้าสู่กระบวนการกฎหมายเด็กฯ
เมื่อ 3 ก.พ. 62 ดำเนินการ ส่งตัวชาวกัมพูชา 8 คน ชาวไทยมุสลิม
2 คน กลับไปที่ สภ.มายอ รวม 10 คน และแจ้งข้อหา ชาวกัมพูชา อยู่เกินกำหนด 7 คน อีก 1 คน ยังไม่เกินกำหนดฯ มอบให้
ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง รับตัวไป ผลักดันกลับประเทศต้นทาง ส่วนชาวไทย มุสลิม 2 คน ได้รับการปล่อยตัว
เมื่อ 4
ก.พ.
62 ส่งตัวชาวกัมพูชาทั้ง 9 คน ฟ้องศาลฯ ต่อไป
สำหรับ เหตุผลและความจำเป็นที่ จนท.รัฐ ต้องบังคับใช้กม.ในพื้นที่ต่อ
กลุ่ม ผกร.หรือ ผู้ต้องสงสัยภายใต้อำนาจ กม.พิเศษ ซึ่งจนท.ต้องปฏิบัติด้วยความระมัดระวังในทุกขั้นตอน
และต้องมีมาตรการเพื่อป้องกันการตอบโต้ซึ่งมีกรณีตัวอย่างมาโดยตลอด สำหรับในครั้งนี้ จนท.ก็ไม่สามารถล่วงรู้ได้ว่า บุคคลต้องสงสัยเป็นใคร
มีอาวุธหรือไม่ รู้เพียงพฤติกรรมที่น่าสงสัยว่า อาจเป็นการฝึกของ ผกร. ทั้งรูปแบบและท่าทาง
ซึ่งไม่ใช่ท่าออกกำลังกายและไม่ใช่เวลาที่บุคคลทั่วไป จะมาออกกำลังกาย
ฉะนั้นการดำเนินการในครั้งนี้ จนท.รัฐ ไม่ได้มีเจตนาหรือ
อคติต่อสถาบันปอเนาะแห่งนี้ เพราะทราบดีว่าสถาบันปอเนาะ คือ ศูนย์การเรียนรู้ตลอดชีวิตในด้านศาสนาและวัฒนธรรมอิสลาม
เพื่อเสริมสร้างให้ชุมชนมีความรู้และความประพฤติที่ดีงามในการดำรงชีพอย่างสันติสุขและมีความรับผิดชอบต่อสังคม
ประเทศชาติ จึงไม่มีเหตุผลใดในการเข้าดำเนินการต่อสถานศึกษาศาสนาเหล่านี้ เพียงแต่เป็นการป้องปรามการกระทำที่อาจทำให้เกิดความไม่สงบ
เรียบร้อยในพื้นที่ เท่านั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น