กรณีเมื่อ 11 กรกฎาคม 2562 เวลา 10.30
น.เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว นางสาวไซนับ เฮาะยา บ้านเลขที่ 58 ม.2 ต.เกะรอ อ.รามัน
จ.ยะลา ซึ่งทราบว่านางสาวไซนับประกอบอาชีพค้าขายเสื้อผ้าโดยไปรับเสื้อผ้าจากประเทศอินโดนีเซีย
กลับมาขายทางออนไลน์ ปลีก-ส่ง ก่อนหน้านี้ได้เดินทางไปกับเพื่อนๆไปรับเสื้อผ้าที่อินโดนีเซีย
ระหว่างเดินทางกลับถึงด่าน อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส
ทันทีที่นางสาวไซนับ ถูกควบคุมตัวที่ด่าน ตม.สุไหโกลก สื่อแนวร่วม
ไม่ว่าจะเป็น เพจ: Watani, เพจ: ศูนย์ติดตามข้อมูลการควบคุมประชาชนจังหวัดชายแดนใต้,
เพจ: Melayu Patani, เพจ: SUARA FB และผู้ใช้เฟสบุ๊คอีกจำนวนหนึ่งได้โพสต์ข่าวดังกล่าว
และเคลื่อนไหวกล่าวหาโจมตีเจ้าหน้าที่รัฐ ละเมิดสิทธิมนุษยชนสตรี ชี้นำบิดเบือนเจ้าหน้าที่รังแกผู้หญิงที่ทำมาหากินสุจริต
แม้กระทั่งขายเสื้อผ้าออนไลน์ยังโดนจับ คนค้ายาบ้ากลับลอยนวล
การออกมาชี้นำ
บิดเบือนของสื่อแนวร่วม ไม่ได้มีการนำเสนอข้อเท็จจริงรอบด้านให้กับผู้อ่าน
ตั้งใจนำเสนอให้เห็นว่า นางสาวไซนับ ประกอบอาชีพสุจริต เป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กแต่กลับถูกรังแก
อีกทั้งได้ตั้งคำถามเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัวด้วยกฎหมายอะไร กฎอัยการศึก
พรก.ฉุกเฉิน หรือ หมาย ป.วิอาญา
และมีการหยอดให้ผู้เสพข่าวคิดเชิงลบต่อเจ้าหน้าที่รัฐว่ารังแกประชาชนด้วยกฎหมายพิเศษ
ข้อเท็จจริง นางสาวไซนับ ถูกควบคุมตัว
ข้อมูลเชิงลึกจากแหล่งข่าวที่พอเชื่อถือได้ การที่ นางสาวไซนับ ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวที่ด่าน
ตม.สุไหโกลก จ.นราธิวาสในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจาก นางสาวไซนับ
ซึ่งใช้ชื่อในเฟสบุ๊คว่า Berjiwa Progresif ซึ่งในโปรไฟล์ระบุเพศ
ชาย มีความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากการเผยแพร่ข้อความที่ไม่เหมาะสมลงใน เพจ Suara
Patani ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว นายสันติ ดอเลาะ ที่ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ซึ่งมีความผิดกรณีเดียวกับ
นางสาวไซนับ ไปทำการสอบสวนเช่นกัน
นางสาวไซนับ
เฮาะยา ในห้วงที่ผ่านมาประกอบอาชีพขายเสื้อผ้า เครื่องสำอาง ทาง Facebook นำเข้าจากประเทศอินโดนีเซีย ในขณะเดียวกันตัวตนอีกด้านหนึ่งของ นางสาวไซนับ
มีพฤติกรรมที่ส่อว่านิยมความรุนแรง ด้วยการปลุกระดม
และมีการเผยแพร่ภาพเหตุการณ์ความรุนแรงใน จชต.อยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งเชื่อได้ว่า
นางสาวไซนับ มีความเชื่อมโยงกับสื่อแนวร่วม เพจ Suara Patani ที่เคลื่อนไหวโฆษณาชวนเชื่อ บิดเบือนข้อเท็จจริงและกล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐ
ตัวอย่างการบิดเบือนของ
เพจ Suara
Patani กรณีเจ้าหน้าที่วิสามัญ นายอับดุลเลาะ ลาเตะ ผกร.ในพื้นที่
ม.4 ต.กาตอง อ.ยะหา จ.ยะลา มีการบิดเบือนเจ้าหน้าที่ฆ่าเสร็จแล้วก็เผาบ้านเพื่อทำลายหลักฐานบางอย่าง
และขโมยทรัพย์สินของ นางสาวมาสนะ ยะผา เจ้าของบ้านในระหว่างเข้าทำการตรวจสอบ
และกรณี คนร้ายลอบยิง จนท.ตำรวจเสียชีวิต 2 นาย
ขณะกำลังละหมาดภายในมัสยิดนูรุลอีบาดะห์ บ้านมายอ หมู่ 6 ต.ธารโต อ.ธารโต
ผู้ก่อเหตุเป็นเจ้าหน้าที่ เนื่องจากขัดแย้งกันเองแล้วโยนผิดให้ขบวนการ ซึ่งหลายๆ
เหตุการณ์เมื่อความจริงปรากฏ
ไม่ว่าจะเป็นผลจากการพิสูจน์ปลอกกระสุนหรือวัตถุพยานต่างๆ ในที่เกิดเหตุ
แม้กระทั่งผู้เสียหายเองได้ออกมายืนยัน รวมถึงความคืบหน้าของคดีมีการออกหมายจับกุมผู้ก่อเหตุ
แต่แอดมิน เพจ Suara Patani
กลับหน้าด้านไม่เคยออกมารับผิดชอบใดๆ ต่อการกระทำ ยังคงทำการปลุกระดม บิดเบือนความจริงให้เกิดความเกลียดชังสร้างความแตกแยกของผู้คนในสังคม
มุ่งสร้างความหวาดระแวงต่อกันระหว่างผู้คนต่างศาสนา..
----------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น