การสร้างแคมเปญรณรงค์ของ
สหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียนและเยาวชนปาตานี หรือ PerMAS
ในเว็บไซต์เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลง (change.org)
เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา “เห็นด้วยกับการยกเลิกการบังคับใช้กฎอัยการศึกในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้/ปาตานีหรือไม่” ซึ่งเว็บไซต์ดังกล่าวมีผู้ใช้งาน 297,830,235 คนทั่วโลก
โดยส่วนขยายใจความมีการให้รายละเอียดว่า
การประกาศใช้กฎอัยการศึก เป็นการให้ทหารมีอำนาจเหนือเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือน อำนาจในการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย
เมื่อสอบถามแล้วหายสงสัยก็จะปล่อยตัวกลัว และสามารถเชิญตัวมาอีกได้ครั้งถัดไปได้ ถือเป็นกฎหมายที่มีการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนและเป็นเหตุให้ไปสู่การละเมิดสิทธิมนุษยชนอีกมากมาย
ความพยายามของสหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียนและเยาวชนปาตานี
หรือ PerMAS
มีการปลุกกระแสและชี้นำให้ประชาชนคิดต่างจากรัฐในเรื่องต่างๆ บรรดาสาวกในเครือข่าย
PerMAS เป็น “อิควานมุสลิมีน” ที่มีความมักใหญ่ใฝ่สูงต้องการผลักดันแนวทางการขับเคลื่อนด้านสิทธิในการกำหนดใจตนเอง
(Right to Self-Determination) ในพื้นที่ จชต. มีการสร้างการรับรู้ทั้งในพื้นที่
นอกพื้นที่ รวมถึงองค์กรระหว่างประเทศให้เห็นว่าในพื้นที่แห่งนี้
เป็นพื้นที่สงคราม มีความขัดแย้งด้านอาวุธ และมีการละเมิดสิทธิมนุษยธรรม
การสร้างแคมเปญรณรงค์
“เห็นด้วยกับการยกเลิกการบังคับใช้กฎอัยการศึกในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้/ปาตานีหรือไม่”
ความพยายามที่ผ่านมาของ PerMAS
ในการเคลื่อนไหวเพื่อให้มีการยกเลิกการใช้กฎหมายพิเศษในพื้นที่ จชต.
นั้น เพื่ออะไร? และใครได้ประโยชน์
หากมีการกล่าวอ้างเคลื่อนไหวเพื่อประชาชน
ถามว่าประชาชนส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบในการใช้ชีวิตประจำวันต่อการประกาศใช้กฎหมายพิเศษหรือไม่?
จากการลงพื้นที่สอบถามความรู้สึกคำตอบที่ได้รับทุกคนต่างตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า
แทบไม่รู้สึกและไม่มีความแตกต่างจากพื้นที่อื่นๆ ของประเทศที่มีการใช้กฎหมายปกติ
จะมีบ้างที่มีด่านตรวจเพื่อทำการตรวจตราสแกนหาสิ่งผิดกฎหมายและคนร้ายซึ่งแตกต่างจากพื้นที่อื่น
กฎหมายพิเศษกับสามจังหวัดชายแดนใต้และ
4 อำเภอของจังหวัดสงขลา มีการบังคับใช้กฎหมายสามฉบับด้วยกัน กล่าวคือ หนึ่ง
กฎอัยการศึก สอง พระราชกำหนดการบริหารราชการแผ่นดินในสถานการณ์ฉุกเฉิน
(พรก.ฉุกเฉิน) และ สาม มาตรา 21
แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551
การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงจะมีการพิจารณาทุกสามเดือน
รัฐมีแผนผ่อนปรนและยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ตลอดจนกฎอัยการศึกในบางพื้นที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ไม่มีเหตุรุนแรง
เช่นในพื้นที่อำเภอแม่ลาน จังหวัดปัตตานี และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ได้แก่ จะนะ
เทพา สะบ้าย้อย และนาทวี จะไม่ใช้กฎอัยการศึกแต่ใช้มาตรา 21
แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 แทน เพื่อยืดหยุ่นให้แนวร่วมขบวนการเข้ารับการอบรมแทนการลงโทษได้
เมื่อสหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียนและเยาวชนปาตานี
หรือ PerMAS
มีการรณรงค์สร้างแคมเปญร่วมลงชื่อยกเลิกการบังคับใช้กฎอัยการศึกในพื้นที่ปาตานี
อีกทั้งการเคลื่อนไหวมิได้มุ่งเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนด้วยใจจริง แต่กระทำทุกวิถีทางเพื่อองค์กรและขบวนการที่ขับเคลื่อนงานการเมืองต้องการกำหนดใจตนเอง
สรุปการยกเลิก “กฎอัยการศึก”
เปรียบเสมือนหมากเกมใหม่ที่ต้องการสร้างกระแสกดดันรัฐบาลในช่วงยุคประชาธิปไตยหลังการเลือกตั้งที่ผ่านมา
เพื่อนำไปสู่เป้าหมายเดิมคือ“การแบ่งแยกดินแดน”
-------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น