7/16/2562

เจาะลึกความเชื่อมโยงของเพจ Suara Patani



กรณีเมื่อ 11 กรกฎาคม 2562 เวลา 10.30 น.เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว นางสาวไซนับ เฮาะยา บ้านเลขที่ 58 ม.2 ต.เกะรอ อ.รามัน จ.ยะลา ซึ่งทราบว่า นางสาวไซนับ ประกอบอาชีพ ค้าขายเสื้อผ้า โดยไปรับเสื้อผ้า จากประเทศอินโดนีเซีย กลับมาขายทางออนไลน์ ปลีก-ส่ง ก่อนหน้านี้ ได้เดินทางไปกับเพื่อนๆไปรับเสื้อผ้าที่อินโดนีเซีย ระหว่างเดินทางกลับถึงด่าน อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส ถูกควบคุมตัว นำตัวไปสอบสวน
          ล่าสุดทราบว่า นางสาวไซนับ ให้การยอมรับว่า เป็นผู้แชร์ข้อความ รูปภาพที่ไม่เหมาะสมและภาพเหตุการณ์รุนแรงในพื้นที่ จชต. ลงในเพจ Suara Patani จริง โดยใช้ Facebook ชื่อ Berjiwa Progresif ซึ่งการกระทำดังกล่าว มีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 
          เบื้องลึก พบว่า น.ส.ไซนับ เป็นพี่สาว นายอามีน เฮาะยา สมาชิกกลุ่ม ผกร.ระดับปฏิบัติการ ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุลอบวางระเบิด เจ้าหน้าที่ อส.ไม้แก่น เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2560 และเหตุลอบวางระเบิด ชุดลาดตระเวน ร้อย ทพ.4412 เสียชีวิต 4 นาย ได้รับบาดเจ็บ 5 นาย เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2560 อีกทั้ง น.ส.ไซนับ มีพี่สาวชื่อ นางรอกีเยาะ เฮาะยา เป็นภรรยาของ นายอุสมาน ดิง พฤติกรรมเป็นสมาชิก ผกร. ฝ่ายโลจิสติก เครือข่าย ผกร.ปฏิบัติการในพื้นที่ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ซึ่งในอดีตเคยถูกจำคุกคดีความมั่นคง ปัจจุบันได้รับการอภัยโทษ
          เมื่อทราบข้อมูลเชิงลึกแบบนี้แล้ว คงไม่ต้องบอกนะครับว่า เพจ Suara Patani เกี่ยวข้องอะไรกับเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ จชต. ที่ผ่านมา การชี้นำบิดเบือนข้อเท็จจริงในหลายกรณี เช่น เหตุการณ์แรก กรณีเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายในพื้นที่หมู่ 4 ต.กาตอง อ.ยะหา จ.ยะลา เมื่อ 27 พ.ค.62 วิสามัญ นายอับดุลเลาะ ลาเต๊ะ ผกร.ระดับสั่งการเสียชีวิต เพจ Suara Patani บิดเบือนเจ้าหน้าที่ฆ่าเสร็จแล้วก็เผาบ้านเพื่อทำลายหลักฐาน และขโมยทรัพย์สินของ นางสาวมาสนะ ยะผา เจ้าของบ้านในระหว่างเข้าทำการตรวจสอบ เหตุการณ์ที่สอง เหตุคนร้ายลอบยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต 2 นาย ขณะกำลังละหมาดภายในมัสยิดนูรุลอีบาดะห์ บ้านมายอ หมู่ 6 ต.ธารโต อ.ธารโต จ.ยะลา เพจ Suara Patani มีการบิดเบือนเป็นฝีมือเจ้าหน้าที่ เนื่องจากขัดแย้งกันเองแล้วโยนผิดให้ขบวนการ
          เหตุการณ์ที่สาม คนร้ายแต่งกายชุดดำคล้าย จนท. ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่ ชคต.ประจัน เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ อส.ชคต. เสียชีวิต จำนวน 4 นาย และคนร้ายได้นำอาวุธปืน HK-33 จำนวน 4 กระบอกหลบหนีไป หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังไล่ล่าติดตามกลุ่มคนร้าย และได้เกิดการปะทะกับกลุ่มคนร้ายบริเวณใกล้ๆ มัสยิดกรือเซะ สามารถควบคุมตัวคนร้ายได้ 1 คน คือ นายมะกรี อิสอปุเต๊ะ ในเวลาต่อมา เพจ Suara Patani ได้ออกมาบิดเบือนว่า คนร้ายที่เจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้นั้น เป็นเพียงคนเลี้ยงปลาดุกและรับส่งไส้ไก่ที่บ่อดิน
          การบิดเบือนของเพจ Suara Patani มีมากกว่านี้ ที่ยกตัวอย่างเพื่อให้เห็นการบิดเบือนความจริงการพยายามแก้ต่างให้กับคนร้าย สร้างความสับสนของข้อมูลและให้เกิดความเข้าใจผิด เมื่อความจริงปรากฏ ไม่ว่าจะเป็นผลจากการพิสูจน์ปลอกกระสุนหรือวัตถุพยานต่างๆ ในที่เกิดเหตุ หรือแม้กระทั่งผู้เสียหายเองได้ออกมายืนยัน รวมถึงผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัวได้ยอมรับสารภาพความจริง จนนำไปสู่การดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ เพจ Suara Patani ไม่เคยออกมายอมรับ กลับเดินหน้าสร้างข่าวเท็จ เขียนข่าวลวง กล่าวหาใส่ร้ายต่อไปอย่างหน้าไม่อาย...
--------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น