แบมะ
ฟาตอนี
ไฟใต้ได้ลุกโชนมาเป็นระยะเวลา
10 กว่าปีแล้ว นับตั้งแต่เกิดเหตุปล้นปืนค่ายปิเหล็ง กองพันพัฒนาที่ 4 เมื่อต้นปี
47 ซึ่งเป็น “จุดเริ่มต้นสร้างโจรใต้”
เหตุการณ์ยังคงไม่มีทีท่าจะสงบลงสักที
ยังคงมีการก่อเหตุมุ่งประทุษร้ายต่อเจ้าหน้าที่รัฐ ประชาชนผู้บริสุทธิ์
และเป้าหมายอ่อนแอ
พื้นที่อำเภอทุ่งยางแดงเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่มีการก่อเหตุของผู้ก่อความไม่สงบ
เป็นพื้นที่ที่มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มขบวนการค่อนข้างรุนแรง มีการก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะการลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่และประชาชน
มีการลอบวางระเบิด ลอบวางเพลิงโรงเรียน สถานที่ราชการ จนเป็นที่มาของการเข้าไปแก้ปัญหาอย่างจริงๆ จัง
ของหน่วยงานภาครัฐ กับโครงการต้นแบบ“ทุ่งยางแดงโมเดล”
หากย้อนกลับไปเมื่อปี
2550 ซึ่งในขณะนั้นเหตุการณ์กำลังปะทุ ความรุนแรงได้ขยายตัวเป็นวงกว้าง
กลุ่มขบวนการมีการปฏิบัติการทุกรูปแบบเพื่อทำการกดดันเจ้าหน้าที่
รวมทั้งประชาชนผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับความรุนแรง
โดยเฉพาะการกระทำต่อกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเด็ก และสตรี ที่ไม่มีทางต่อสู้
และ...แล้วสิ่งที่ทุกคนไม่ได้คาดคิด “ดอกไม้ดอกแรก” ของกรมพัฒนาชุมชน
กระทรวงมหาดไทยก็ถูกเด็ดลง โดยฝีมือของผู้ก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้
เมื่อเวลา 16.30 น. ของวันที่ 4 กันยายน 2550 สถานที่เกิดเหตุ บ้านปาแตปูเต๊ะ
หมู่ที่ 2 ตำบลปากู อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี
คุณนิภาพร นาคทอง
พัฒนาการอำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี คือ “ดอกไม้ดอกแรก” เธอถูกคนร้าย 2 คน ประกบยิงด้วยอาวุธปืนสั้น ขนาด 9
มม. ขณะขับรถยนต์กระบะมิตซูบิชิ สีบรอนซ์ รุ่น แอล 200 สีเขียว ป้ายทะเบียน
ม-1137 ปัตตานี ซึ่งเป็นรถยนต์ของสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอ
ใช้ในการปฏิบัติงานในเขตพื้นที่รับผิดชอบ หลังทำการก่อเหตุคนร้ายได้ชิงรถยนต์คันดังกล่าวไปด้วย
และภายหลังจากนั้นได้มีการแจ้งเตือนจากหน่วยที่เกี่ยวข้อง
ว่าคนร้ายอาจจะนำรถยนต์คันดังกล่าวไปประกอบระเบิดใช้ในการก่อเหตุในพื้นที่
“อย่ากลัว
ถ้ากลัวก็ไม่ต้องทำงาน” นี่คือคำพูดที่คุณนิภาพร
นาคทอง จะบอกกับผู้ที่ใกล้ชิดและเพื่อนร่วมงานอยู่เสมอ
นับตั้งแต่ได้เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบตั้งแต่ต้นปี 47 และเหตุการณ์ได้ทวีความรุนแรงขึ้น
แต่ด้วยพื้นฐานของความคิดว่าตนเอง คือ “นักพัฒนา”
ซึ่งมีหน้าที่ในการช่วยเหลือผู้อื่นที่ทุกข์ยากให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
แม้กระทั่งเวลาส่วนตัวเธอได้ทุ่มเทให้กับงานที่รับผิดชอบ และไม่เคยมีเรื่องบาดหมาง
ไม่ได้มีพิษมีภัยกับใคร เป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ ธรรมดาๆ คนหนึ่ง
“นักพัฒนา”
คือ “นักบุญ” คือ “ผู้ให้”
แต่ผู้ก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ได้คิดเช่นนั้น
กลับมาเข่นฆ่าอย่างเหี้ยมโหด ทั้งๆ ที่นักพัฒนาอย่างคุณนิภาพร นาคทอง
คอยช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ ซึ่งบุคคลเหล่านั้นอาจจะเป็นญาติพี่น้องของผู้ก่อเหตุเอง
แต่ยังกระทำกันได้อย่างเลือดเย็น ไร้ความปราณี
คุณนิภาพร นาคทอง
เป็นข้าราชการที่เสียสละ
อุทิศตนในการปฏิบัติงานโดยไม่ย่อท้อต่อความยากลำบากและภัยอันตราย เธอเป็นต้นแบบของข้าราชการที่ดี
ดั่งคำที่เธอได้เคยเอ๋ยกับผู้คนรอบข้างอยู่เนืองๆ ว่า “อย่ากลัว
ถ้ากลัวก็ไม่ต้องทำงาน”
นับได้ว่าเป็นการสูญเสียบุคลากรที่ทรงคุณค่าของประเทศชาติ ถึงแม้ว่า 7
ปีแล้วกับการจากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ
แต่ประชาชนในพื้นที่ที่เคยได้รับการช่วยเหลือดูแลจากเธอ
รวมทั้งผู้ใกล้ชิดยังไม่เคยลืมถึงคุณงามความดีที่เธอได้สร้างเอาไว้...หลับเถอะ..หลับให้สบาย..คนอยู่ข้างหลังจะจารึก..ดอกไม้ดอกนี้..ไว้ในความทรงจำตลอดไป..
ความสูญเสียบุคลากรเจ้าหน้าที่รัฐ
หรือประชาชนผู้บริสุทธิ์คงไม่สูญเปล่า หน่วยงานที่รับผิดชอบความมั่นคงในพื้นที่
ได้นำแนวทางการแก้ปัญหาภายใต้ชื่อ “ทุ่งยางแดงโมเดล” ซึ่งหลายภาคส่วนเชื่อว่าจะเป็นยุทธศาสตร์ที่เข้มแข็ง ให้ประชาชนในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลตัวเอง
หมู่บ้าน ชุมชน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ในการเสริมสร้างความมั่นคง เพื่อนำไปสู่สันติสุข…
หลายพื้นที่ได้มีการขับเคลื่อนให้ภาคประชาชนมีความเข้มแข็ง
-------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น