เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2557 ตามที่สำนักข่าวอิศรา ได้ลงบทความ ไอโอ "ล้ำเส้น" ที่ชายแดนใต้เขียนโดย ปกรณ์ พึ่งเนตร ในหมวดหมู่คุยกับบรรณาธิการ
เป็นธรรมดาของการเขียนข่าวหรือการเขียนบทความต่างๆ
เป็นที่รู้กันดีของแวดวงนักสื่อสารมวลชนว่า การนำเสนอก่อน
คือการชิงความได้เปรียบ และเป็นต่อในการสร้างการรับรู้ ส่วนผู้ที่ออกมาโต้ตอบในภายหลังถือว่าเป็นการแก้ตัว แก้ข่าว
แต่ผู้เขียนมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตอบโจทย์ของคุณปกรณ์ พึ่งเนตร
ที่ได้นำเสนอข้อมูลหลงทิศทาง และเข้าใจอะไรบางอย่างผิดเพี้ยนไป
ในนามส่วนตัวกราบขออภัยนักเขียนอาวุโสไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย
คุณปกรณ์ พึ่งเนตร ได้กล่าวถึงความเป็นมาของ “ไอโอ”หรือ ปฏิบัติการข่าวสาร
นำมาใช้เพื่อชิงความได้เปรียบในสงคราม พร้อมทั้งได้กล่าวพัฒนาการการนำสื่อ Social
Media เป็นช่องทางในการเผยแพร่ข้อมูลความดี และความสำเร็จของฝ่ายตน
และตอกย้ำความเลวร้าย หรือความไม่ถูกต้องของฝ่ายตรงข้าม
ผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งที่มีการปฏิบัติการข่าวสารเชิงบวก
หรือนำเสนอเรื่องราวที่ดีๆ ที่มีอยู่มากมายในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้แห่งนี้
เพื่อสื่อไปยังบุคคลนอกพื้นที่ให้เกิดการรับรู้ว่าไม่ได้มีเฉพาะเหตุการณ์เลวร้ายเพียงอย่างเดียว
ซึ่งในจุดนี้ในนามส่วนตัวของผู้เขียนได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการนำเสนอข่าวสารของสื่อกระแสหลัก
ไม่ค่อยจะนำเสนอกัน ดั่งเช่นคำกล่าวของบุคคลทั่วไปพูดถึงสื่อมวลชนว่า “ข่าวร้ายลงฟรี ข่าวดีจ่ายตังค์”ในส่วนของการประณาม
หรือเปิดเผยความชั่วร้ายของกลุ่มขบวนการก็เช่นเดียวกัน อย่าไปหวังให้ยาก จากการได้สัมผัสการทำงานของสื่อมวลชนที่ผ่านๆ
มา
ผมแปลกใจ คุณปกรณ์ พึ่งเนตร เป็นอย่างมากที่ตั้งหน้าตั้งตาเขียนเปิดประเด็นการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ
แต่ไม่มีสักนิดเดียวที่เนื้อหาได้กล่าวถึง “เพจโจรใต้ฟาตอนี”ที่มีอยู่อย่างดาษดื่นในการสร้างความแตกแยกทางความคิด มีการยุยงปลุกปั่น
ให้ประชาชนลุกฮือขึ้นต่อสู้
มีการนัดหมายในการชุมนุมประท้วงกดดันการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ
และตั้งใจละเมิดและกระทำผิดกฎหมาย ที่ผู้เขียนยอมรับไม่ได้คือ “เพจโจรใต้ฟาตอนี” เหล่านั้น มีความพยายามสร้างความแตกแยก แบ่งเขา-แบ่งเราไทยพุทธ-ไทยมุสลิม
หรือคุณปกรณ์ พึ่งเนตร เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ หูตามืดบอดสนิท แกล้งทำเป็นทองไม่รู้ร้อน
ไม่เห็นกับการกระทำของอีกฝ่าย แต่กลับตั้งหน้าตั้งตากล่าวหาโจมตี“เพจผี”และมีการตั้งข้อสงสัยว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลัง “เพจผี” เหล่านี้ไม่ใช่ใครที่ไหน คือเจ้าหน้าที่รัฐเป็นการปฏิบัติการ “ใต้ดิน” ซึ่ง 2-3 ปี มานี้เริ่มแรงและ “ล้ำเส้น” มากขึ้นเรื่อยๆ
เรามาดูเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่สนับสนุนขบวนการกันครับ
ในเมื่อมีคนกลุ่มหนึ่งบอกว่า“เพจผี”มีเยอะมากผู้เขียนเลยเอาสื่อโจรที่เขียนโจมตีประเทศไทย
โจมตีการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐมาโดยตลอด ให้ท่านผู้อ่านลองเข้าดูเนื้อหาสาระในการนำเสนอของสื่อเหล่านี้ดูกัน
“เพจโจรโจรใต้ฟาตอนี” ขาประจำได้แก่ เพจPatani
Darussalam News, เพจ Patani
Peace สันติภาพปาตานี ﻓﺭدﺍﻣﺎﻳﻦ
فطاني, เพจJalan Ku PataniMerdeka,
เพจPataniFakta Dan Opini และยังมีอีกหลายเพจน่าจะมีเยอะกว่า
“เพจผี” ด้วยซ้ำ
ตัวอย่างเพจโจรใต้ฟาตอนีที่มีการบิดเบือน
คุณปกรณ์ พึ่งเนตรกล่าวถึง“เพจผี” ในเฟซบุ๊ค ซึ่งหมายถึงหน้าเพจที่ไม่ระบุตัวตนชัดเจน
แล้วแพร่ข้อมูลในลักษณะสร้างความเกลียดชังต่อกลุ่มก่อความไม่สงบ แต่ไม่ได้กล่าวถึง“เพจโจรใต้ฟาตอนี”ซึ่งได้มีการเผยแพร่ข้อมูลในลักษณะบิดเบือนความจริง
กล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐ โจมตีการปฏิบัติงานของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหา จชต.
สร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชนในพื้นที่ เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งรัฐ แต่คุณปกรณ์
พึ่งเนตร กลับเห็นดีเห็นงามด้วยไม่เห็นมีการกล่าวถึง..เอ๊ะชักจะยังไง?..หากไปกล่าวหาเดี่ยวกลับกลายเป็นประเด็นอีก
ขอให้ท่านผู้อ่านลองตั้งข้อสังเกตดูกันดีกว่าครับ และโปรดใช้วิจารณญาณในการเสพข้อมูลข่าวสารกัน
อย่างกรณีโจรใต้ที่ก่อเหตุสร้างสถานการณ์ เข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์
กระทำความชั่วมามากมาย มีหมายจับของศาลนับสิบๆ หมาย บางรายเมื่อผลพิสูจน์หลักฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจออกมามีความเชื่อมโยงกับคดีสำคัญ
และในปัจจุบันมีการนำหลักนิติวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วยพิสูจน์ DNA ยืนยันตัวบุคคลที่เป็นที่ยอมรับในสากล คุณปกรณ์ พึ่งเนตรจะให้ทำอย่างไรกับคุณโจรใต้เหล่านี้
หรือจะให้ยกย่องสรรเสริญเป็นวีรบุรุษอย่างเช่นนายมะรอโซ จันทรวดี หรืออย่างไร?
ลองใช้สามัญสำนึกของความเป็นคนในฐานะที่เป็นนักเขียนอาวุโส
หลับตานึกภาพญาติพี่น้องเหยื่อที่โจรใต้เหล่านี้เข่นฆ่าสิ พวกเขาเจ็บปวดแค่ไหน เมื่อมีการก่อเหตุต่อเจ้าหน้าที่
และชาวบ้านเสียชีวิต ไม่ลองเข้าไปดูในเครือข่ายสังคมออนไลน์“เพจโจรใต้ฟาตอนี” ดูสิว่าเกิดอะไรขึ้น
มีทั้งเยาะเย้ยถากถาง บรรดาเครือข่ายดีใจ เย้ยหยันฉลองกันยกใหญ่...
คุณปกรณ์ พึ่งเนตร กล่าวอ้าง พล.อ.ไวพจน์ ศรีนวล อดีตรองปลัดกระทรวงกลาโหม เคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่า การใช้ “ไอโอ” แบบที่ฝ่ายความมั่นคงไทยนิยมใช้กันเหมือนที่สหรัฐใช้ในสงครามอิรัก
คือ ให้ข้อมูลความเลวร้ายของฝ่ายตรงข้ามด้านเดียวนั้น จริงๆ
แล้วไม่ควรใช้ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
การปฏิบัติการข่าวสาร หรือ “ไอโอ” ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้
มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากรัฐจะต้องนำเสนอข้อเท็จจริง เพื่อทำการส่งผ่านข้อมูลสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่
ประชาชนในพื้นที่อื่นๆ ของประเทศ ได้เกิดการรับรู้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ไม่ให้ประชาชนเหล่านั้นหลงเชื่อข่าวลือ
ตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มขบวนการแนวร่วมที่ได้มีการทำ “ไอโอ” มาอย่างช้านาน หากเราทำการศึกษาเกี่ยวกับงาน “ไอโอ” อย่างลึกซึ่งจะรู้ว่ามีถึง 13
กิ่งงานด้วยกัน ยกตัวอย่างเช่น งานประชาสัมพันธ์,
งานกิจการพลเรือน และการปฏิบัติการจิตวิทยา เป็นแค่กิ่งงานย่อยของงาน“ไอโอ”จะเห็นได้ว่าในส่วนที่ดีมีเยอะไม่ได้เป็นการใส่ร้ายฝ่ายตรงข้ามเพียงอย่างเดียวตามที่
คุณปกรณ์ พึ่งเนตร ได้มีการกล่าวอ้าง
“การมุ่งสร้างความเกลียดชังจึงไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาใดๆ
และไม่ได้ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ไม่ว่าจะระยะสั้นหรือระยะยาวก็ตาม”เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง
ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือกลุ่มขบวนการแนวร่วม แต่ในความเป็นจริงที่ไม่สามารถยอมรับได้ให้ไปดูการโพสต์ภาพพร้อมข้อความของเครือข่าย“เพจโจรใต้ฟาตอนี”กันดูไม่อยากสาธยาย ณ ที่นี้
คุณปกรณ์ พึ่งเนตร ยังกล่าวอีกว่าการก่อเหตุรุนแรงโดยมีผู้บริสุทธิ์ตกเป็นเหยื่อนั้น
ไม่จำเป็นต้องมีใครมาบอกหรือชี้นำ และไม่มีใครเห็นด้วยอยู่แล้ว
แต่ที่ผ่านมาน้อยครั้งนักที่สื่อกระแสหลักได้ออกมาแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าวของแนวร่วม
ผกร. ซึ่งคนทั่วไปต่างรู้ดีว่าเป็นเรื่องของการดำเนินธุรกิจ
และไม่ยอมตกเป็นเป้าในการโจมตีของฝ่ายที่มีความคิดต่างจากรัฐ ยังรวมไปถึงกลุ่ม NGOs อีกด้วย มีสโลแกนอย่างสวยหรู กลุ่มองค์กรที่ไม่แสวงผลกำไร
แล้วเงินทุนที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรต่างประเทศละ
ผลประโยชน์ทั้งหมดตกอยู่กับใคร
ผมเชื่อว่าคุณปกรณ์ พึ่งเนตร ได้นำเรื่องเล็กๆ มาขยายให้เป็นข่าว
และโจมตีเจ้าหน้าที่ทหารในครั้งนี้ ย่อมมีอะไรที่อยู่เบื้องลึก เบื้องหลัง
หรือจะเป็นความไม่ชอบส่วนตัว
อาจจะมีอะไรที่แอบแฝงสัมพันธ์ลึกซึ้งเชื่อมโยงกับใครบางคนไม่สามารถรับรู้ได้
แต่จริงๆ ผมอยากจะเล่าให้ท่านผู้อ่านได้เป็นข้อมูลว่า
ที่มาของการเรียก “เพจผี” จนกระทั่ง
คุณปกรณ์ พึ่งเนตร ได้นำมาขยายผลต่อ ไอโอ "ล้ำเส้น" ที่ชายแดนใต้
นั้น แรกเริ่มเดิมทีเกิดจาก “เพจ
ลมหายใจที่ปลายด้ามขวาน” ได้ทำการแฉแอดมินผู้ดูแล“เพจ Patani Peace สันติภาพปาตานี ﻓﺭدﺍﻣﺎﻳﻦ فطاني” ว่าทั้งหมดเป็นกลุ่มนักศึกษา PerMAS เป็นแอดมินดูแลเพจดังกล่าวอยู่ ซึ่งมีการนำเสนอข้อมูลที่บิดเบือนความจริง
และยังมุ่งโจมตีใส่ร้ายป้ายสีเจ้าหน้าที่รัฐอยู่เสมอ จนกระทั่งการนำภาพบุคคลที่เกี่ยวข้องมาเปิดเผยได้สร้างผลกระทบต่อกลุ่มบุคคลดังกล่าว มีการขู่จะฟ้องร้องแจ้งความ และเพจแนวร่วมโจรใต้ Patani Peace
Dialogue ได้ทำการโพสต์ภาพพร้อมข้อความกล่าวหา “เพจ ลมหายใจที่ปลายด้ามขวาน” และ เพจ:South
dark (เปิดโปงความจริงในเงามืด), เพจ:PNYS
จังหวัดชายแดนใต้, เพจ:Shutdown BRN,
เพจ:สหพันธ์นิสิตนักศึกษาจังหวัดชายแดนใต้,
เพจ:พวกเรากลุ่มต่อต้านโจรใต้-ฟาตอนี, เพจ:เผยความจริงชายแดนใต้ และเฟสบุ๊ค Pattani
Thailand ว่าเป็น “เพจผี”
น่าแปลกใจทำไม? คุณปกรณ์ พึ่งเนตร
ในฐานะผู้อาวุโสและมีชื่อเสียงในวงการสื่อถึงได้หันมาเล่นประเด็นนี้ และเดินหน้าฆ่าฟันเหยียบย่ำการกระทำของบรรดา “เพจผี”
ว่าเป็นการชี้นำให้ประชาชนมีความเกลียดชังต่อกลุ่มขบวนการโจรใต้ โดยบทความดังกล่าวคุณปกรณ์
พึ่งเนตร ไม่ได้เขียนถึงบรรดา “เพจโจรใต้ฟาตอนี” ใดๆ เลย มันคาใจของผู้อ่านหลายๆ คน ได้ฝากถามมา
“สื่อทางเลือก” หรือ “สื่อกระแสหลัก” ที่ทำหน้าที่ในการนำเสนอข่าวไม่เคยมีใครไปยุ่งเกี่ยวกับท่านหรอกครับ
ทำหน้าที่ของท่านไป แต่ยังมีการนำเสนอข่าวสารของสื่อบางสำนักไม่มีจรรยาบรรณ
เอนเอียง ไม่มีความเป็นกลาง อีกทั้งการเคลื่อนไหวในสื่อสังคมออนไลน์
มีการบิดเบือนความจริง สร้างความแตกแยกทางความคิดไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งยากที่จะยอมรับได้
ยุคนี้เป็นยุคของการแย่งชิงสงครามข่าวสาร
ทุกคนจำเป็นต้องปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่ได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรา การปิดหูปิดตาประชาชนในยุคปัจจุบันไม่สามารถกระทำได้ เพราะในโลกยุคดิจิทัล
คุณไม่สามารถปิดกั้นข้อมูลข่าวสารได้อีก
เช่นเดียวกับ คุณปกรณ์ พึ่งเนตร “ผู้เฒ่าหลงยุค” ที่มองต่างมุม “ไอโอ” ล้ำเส้นที่ชายแดนใต้ เป็นแค่การมองเหรียญเพียงด้านเดียว
ทั้งๆ ที่เหรียญมีสองด้าน น่าเสียดายที่ข้อมูลที่ได้นำมาเสนอไม่มีความครบถ้วน
จงใจที่จะดิสเครดิตเจ้าหน้าที่รัฐเพียงอย่างเดียว
การมีส่วนร่วมของประชาชนในการให้ความร่วมมือกับการแก้ปัญหาไฟใต้ ร่วมกันปฏิเสธความรุนแรงทุกรูปแบบ
บังคับใช้กฎหมายให้มีความศักดิ์สิทธิ์ เสมอภาค
เป็นธรรมนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน
! ..อีกไม่นานแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ที่เรารอคอย..กับกระบวนการพูดคุยสันติสุขคงเป็นจริง...
------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : ภาพ 1 บทความไอโอล้ำเส้นที่ชายแดนใต้ ภาพ 2 เพจโจรใต้ฟาตอนี
ภาพ 3 เปิดโปงแอดมินเพจสันติภาพปาตานี ภาพ 4 เพจผี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น