7/30/2558

...เครือข่ายภาคประชาสังคมเพื่อสันติภาพ หรือ...เพื่อใคร?

แบดิง โกตาบารู

ยุทธศาสตร์กลุ่มขบวนการ BRN ในอดีตที่ผ่านมาซึ่งมีการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนคือ เอกราช และ มุ่งไปสู่การปกครองตนเอง ไม่ว่าจะเป็นแบบรัฐอิสลามหรือไม่? วิธีหลักที่กลุ่มขบวนการ BRN ใช้มาโดยตลอด คือ ยุทธศาสตร์สงครามประชาชน ภายใต้ยุทธวิธีสงครามกองโจร การญีฮาด และสงครามข่าวสาร

สงครามข่าวสารในยุคเริ่มแรกที่กลุ่มขบวนการ BRN ใช้ได้ผลมากที่สุดคือ ปากต่อปาก ใบปลิว ป้ายผ้า อีกทั้งมีการปล่อยข่าวลือ มุ่งทำการก่อเหตุใช้ความรุนแรง เป้าหมายคือให้องค์กรต่างชาติเข้ามาแทรกแซง นำไปสู่เอกราช

เมื่อกระบวนการสันติภาพได้เกิดขึ้นในห้วงระยะเวลาที่ผ่านมา ภาคประชาสังคมเริ่มเข้ามามีบทบาท เป็นตัวแสดงหลักในการขับเคลื่อนที่มีทุนจากต่างชาติหนุนหลัง ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้จะมีมากถึง 521 องค์กร

แต่ก็ถึงบางอ้อเมื่อเจอข้อมูลที่มีการลงนามในตราสารระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยเป็นภาคีถึง 9 ฉบับ แต่ที่เกี่ยวข้องกับจังหวัดชายแดนภาคใต้โดยตรง 7 ฉบับ เป็นการเอื้อของกฎหมายระหว่างประเทศให้ทุนต่างชาติเข้ามาสร้างกระบวนการสันติภาพในพื้นที่ของประเทศ

จากผลพวงดังกล่าวกลุ่มขบวนการ BRN หันมาใช้ภาคประชาสังคมเป็นเครื่องมือสำคัญในการแสวงหาผลประโยชน์จากระบวนการสันติภาพเพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายเอกราช มีการอำพราง แทรกแซง และจัดตั้งองค์กรภาคประชาสังคมฝ่ายตนเองขึ้นมา ส่งผลให้บริบท ตัวแสดง รูปแบบ และเวทีที่จะเล่นได้เปลี่ยนแปลงไปจากรูปแบบเดิมๆ จากสงครามกองโจรที่ได้เคยใช้อยู่

นี่คือโจทย์ใหม่ของหน่วยงานความมั่นคงที่จะต้องทำความเข้าใจ และติดตามตรวจสอบองค์กรภาคประชาสังคมบางองค์กรที่ทำการ ลับ ลวง พราง แต่เบื้องหลังคือเนื้อเดียวกันกับขบวนการ BRN มีความพยายามในการรวบรวมภาคประชาสังคมจัดตั้งเป็นเครือข่ายเพื่อใช้เป็นอำนาจการต่อรองกับหน่วยงานภาครัฐขึ้นมา และเมื่อเร็วๆ นี้ นายตูแวดานียา ตูแวแมแง ได้ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานภาคประชาสังคมต่างๆ และจัดตั้ง เครือข่ายภาคประชาสังคมเพื่อสันติภาพขึ้นซึ่งมีสมาชิก 18 องค์กรด้วยกัน

ความเคลื่อนไหวของเครือข่ายภาคประชาสังคมเพื่อสันติภาพ (คปส.) กับภารกิจแรก คือการเล่นบทด้วยการออกแถลงการณ์กล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐ ปฏิบัติไม่เป็นธรรม และละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อประชาชนเครือข่ายนักกิจกรรมเพื่อสังคม และนักสิทธิมนุษยชนเพื่อสันติภาพ
พร้อมทั้งได้มีการกล่าวว่าได้เรียกร้องขอเข้าพบแม่ทัพภาคที่ 4 แต่ไม่ได้รับการตอบรับใดๆ จึงได้ออกมาแถลงการณ์เรียกร้องความเป็นธรรมกับสังคม

มาตีแผ่ความจริงกันดูว่าใคร? กันแน่ที่เล่นแง่ไม่ยอมเข้าพบแม่ทัพภาคที่ 4 ทั้งๆ ที่มีการเปิดพื้นที่การพูดคุยให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาตอบข้อสงสัยในเรื่องที่ค้างคาใจในวันที่ 14 ก.ค.58 ค่ายสิรินธร กอ.รมน.ภาค 4 สน. แต่กลับชิงความได้เปรียบในการออกแถลงการณ์ในวันที่ 13 ก.ค.58 ณ มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิมประจำจังหวัดปัตตานี

เครือข่ายภาคประชาสังคมเพื่อสันติภาพ (คปส.) มีภาคีร่วมเครือข่ายร่วม 18 องค์กร คิดว่าผู้ที่ติดตามสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้คงจะทราบดีว่ามีองค์กรใดบ้าง

พฤติกรรมของเครือข่ายภาคประชาสังคมเพื่อสันติภาพ (คปส.) ได้รวมตัวกันเพื่อสร้างความแข็งแกร่ง มุ่งกล่าวหาโจมตีเจ้าหน้าที่รัฐว่ามีการละเมิดสิทธิมนุษยชน การบังคับใช้กฎหมายที่ไม่เสมอภาค และการไม่ได้รับความยุติธรรม

องค์กรเหล่านี้ได้มีการตรวจสอบและพยายามหาข้อผิดพลาดในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ นำไปทำการขยายผลสร้างการรับรู้ โดยอาศัยข้ออ้างเพื่อการปกป้องการละเมิดสิทธิมนุษยชน ที่ผ่านมาได้มีการบิดเบือนข้อมูลเพื่อทำลายภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของเจ้าหน้าที่มาโดยตลอด พร้อมทั้งได้มีการนำข้อมูลไปเรียกร้องกับองค์กรระหว่างประเทศเพื่อทำการยกระดับปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้นำไปสู่ระดับสากล

เพราะฉะนั้นอยากจะตั้งคำถามไปยังเครือข่ายภาคประชาสังคมเพื่อสันติภาพ...ที่ทำการเคลื่อนไหวอยู่ทุกวันนี้ เพื่อต้องการสันติภาพ...สร้างสันติสุขให้กับประชาชน หรือเคลื่อนไหวเพื่อใคร? หรือเพื่อเงินทุนสนับสนุนที่อันแสนจะโอชะกันแน่?....

-------------------

แถลงการณ์เหตุความรุนแรงที่สายบุรี วันที่ 25 กรกฎาคม 2558

กรณีเหตุระเบิดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพระ ขณะบิณฑบาต บริเวณตลาดเทศบาลอำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2558 ส่งผลให้มีเจ้าหน้าที่ทหาร พระสงฆ์ และประชาชน เสียชีวิตและบาดเจ็บรวมทั้งหมด  8 ราย ทั้งนี้มีเจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 2 นาย  และพระสงฆ์มรณภาพ  1 รูป บาดเจ็บ 1 รูป  ประชาชนบาดเจ็บ 3 ราย เหตุความรุนแรงครั้งนี้ทำให้องค์กรภาคประชาสังคมหลายองค์กรร่วมกันออกแถลงการณ์ประณามความรุนแรงรวมทั้งมีข้อเรียกร้องต่อเจ้าหน้าที่รัฐและผู้ใช้ความรุนแรงทุกฝ่าย

ผู้นำอิสลาม 8 องค์กรรวมตัวแถลงต่อต้านความรุนแรง เนื่องจากเหตุระเบิดสายบุรี

ผู้นำอิสลาม 8 องค์กรร่วมแถลงการณ์ต่อต้านการใช้ความรุนแรง เชิญชวนพี่น้องมุสลิมร่วมดุอาอ์ให้เกิดสันติสุข ให้ประณามพฤติกรรมสร้างความบาดหมางในสังคม จงช่วยยับยั้งการมุ่งทำลายผู้บริสุทธิ์ พระสงฆ์ นักบวช เด็ก สตรี และศาสนสถาน จงช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบทุกศาสนิก ให้ผู้นำศาสนาประสานให้เกิดความเข้าใจซึ่งกันและกัน


วันที่ 28 กรกฎาคม 2558 ที่มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี ผู้นำทางศาสนาอิสลาม 8 องค์กร ประกอบด้วย คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา) สภาอูลามาปัตตานี สมาคมสถาบันการศึกษาปอเนาะ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สมาคมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม และชมรมมุสลิมภาราดรภาพ ร่วมอ่านแถลงการณ์ต่อต้านการก่อเหตุความรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีการลอบวางระเบิดในเขตเทศบาลตำบลตะลุบัน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อช่วงเช้าวันที่ 25 กรกฎาคม 2558 จนเป็นเหตุให้พระสงฆ์หนึ่งรูปถึงแก่มรณภาพ ทหารเสียชีวิตหนึ่งนาย และชุดรักษาความปลอดภัยรวมทั้งประชาชนอีกจำนวนหนึ่งได้รับบาดเจ็บ

ทั้งนี้ผู้นำศาสนาทั้ง 8 องค์กร เชิญชวนให้พี่น้องมุสลิมร่วมกันดุอาอ์และตั้งเจตนาด้วยความบริสุทธิ์ใจและปฏิบัติดังนี้
          1.เชิญชวนให้พี่น้องมุสลิมและผู้นำศาสนาทุกมัสยิด ร่วมกันต่อต้านการก่อเหตุในครั้งนี้ และแสดงบทบาทใดๆที่ทำให้ผู้ก่อเหตุได้สำนึกบาป
          2.ขอให้พี่น้องมุสลิมทุกคน ทุกกลุ่ม ร่วมกันประณามพฤติกรรมอันนำไปสู่ความรุนแรงและความบาดหมางระหว่างผู้คนในสังคม และจงช่วยกันยับยั้งการมุ่งทำลายประชาชนผู้บริสุทธิ์ พระสงฆ์ นักบวช เด็ก สตรี และทำลายศาสนสถาน
          3.จงช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบทุกศาสนิก และขอให้ผู้นำศาสนาได้แสดงบทบาทหรือทำหน้าที่ในการเป็นผู้ประสานความขัดแย้ง เพื่อให้เกิดความเข้าใจซึ่งกันและกัน และเกิดความสันติสุขโดยเร็ว
          4.ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งไปยังพี่น้องชาวไทยพุทธทุกท่าน ต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้น ในฐานะผู้นำศาสนาทั้ง 8 องค์กร ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่เห็นด้วยและขอปฏิเสธกลุ่มที่สร้างความรุนแรงอย่างไร้มนุษยธรรมต่อเพื่อนมนุษย์พวกเขาเหล่านั้นเป็นกลุ่มที่ไม่มีศาสนาใดๆในหัวใจ



แถลงการณ์สำนักจุฬาราชมนตรี
การฆ่าและทำร้ายพระ นักบวช ผู้นำศาสนา ตลอดจนประชาชนผู้บริสุทธิ์


แถลงการณ์สมาคมเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ ที่ 2/2558
ประณามการใช้ความรุนแรงต่อพระ สตรี ประชาชนผู้บริสุทธิ์ และเป้าหมายอ่อนแอ


แถลงการณ์สหพันธ์นักเรียนนักศึกษาเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ ฉบับที่ 4/2558
ประณามการใช้ความรุนแรงต่อพระ ประชาชนผู้บริสุทธิ์ และเป้าหมายอ่อนแอ


แถลงการณ์ชาวไทยพุทธ ฉบับพิเศษ 1/2558
ประณาม  "การฆ่า" ผู้นำศาสนาพุทธ ประชาชน และชุดคุ้มครองความปลอดภัยพระสงฆ์




แถลงการณ์เครือข่ายอาสาสมัครปกป้องพุทธศาสนา จังหวัดยะลา
เรื่อง เหตุการณ์ความไม่สงบในอำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี
 
แถลงการณ์คณะสงฆ์จังหวัดปัตตานี
เรื่อง เหตุการณ์ความไม่สงบในอำเภอสายบุรี


7/27/2558

“วาทกรรม” สื่อโจรใต้ “กับความรู้สึกของผู้ที่สูญเสีย”

แบดิง โกตาบารู

เหตุการณ์วันที่ 25 ก.ค.58 เป็นอีกวันหนึ่งที่หลายๆ คนตื่นขึ้นมา ต้องเจอกับข่าวเศร้ารับเช้าอรุณของวันใหม่ เมื่อสื่อได้นำเสนอข่าวคนร้ายลอบวางระเบิดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่น่าเชื่อว่าคนร้ายที่มีจุดมุ่งหมายต้องการลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยพระ ด้วยการลอบวางระเบิดในเขตเทศบาลตะลุบัน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี โดยไม่ใส่ใจผลกระทบที่จะตามมา ไม่ว่าจะเป็นประชาชนผู้บริสุทธิ์ และพระภิกษุสงฆ์ซึ่งเป็นนักบวชของพุทธศาสนา

ประชาชนผู้บริสุทธิ์ ซึ่งเป็นเป้าหมายอ่อนแอ มุ่งประกอบศาสนกิจกับชีวิตประจำวันในการจรรโลงพระพุทธศาสนาด้วยการทำบุญตักบุตร แต่โจรใต้กลับทำบาปด้วยการลอบทำร้ายประชาชน และ พระภิกษุสงฆ์ เสมือนหนึ่งสัญลักษณ์ของศาสนาพุทธ ซึ่งผู้ที่เจริญแล้วย่อมไม่กระทำกัน การกระทำดังกล่าวเสมือนคนที่ไร้ศาสนา ไร้ความนึกคิดรับผิดชอบชั่วดี

จิตใจของโจรใต้ฟาตอนีนับวันยิ่งตกต่ำขึ้นทุกวัน กับพฤติกรรมเยี่ยงสัตว์ร้ายที่สิงสถิตอยู่ในร่างคน ทุกการกระทำที่ผ่านมาได้ย่ำยีและทำร้ายจิตใจประชาชนทั้งประเทศที่ติดตามข่าวสารและเป็นห่วงเป็นใยต่อพี่น้องร่วมชาติในจังหวัดชายแดนใต้

สิ่งที่แกนนำกลุ่มขบวนการได้สั่งการให้สมาชิกโจรใต้กระทำลงไป คิดหรือ? ว่าประสบความสำเร็จคิดหรือ? ว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงที่สามารถทำลายชีวิตเจ้าหน้าที่ ชีวิตนักบวช และประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้....

แต่ผิดคาด!!!....เพราะสิ่งที่โจรใต้เหล่านี้ได้กระทำลงไปเป็นการประจานตัวเอง และองค์กรมากกว่า การใช้ความรุนแรงมีแต่สร้างความสูญเสียไม่ใช่ทางออกของสันติภาพ...ภาพความโหดร้ายที่สื่อทำการเผยแพร่แน่นอนย่อมเป็นข่าวใหญ่เป็นที่สนใจของคนทั้งประเทศ ในสายตาพวกคุณคือความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ แต่สำหรับชาวไทย และคนทั้งโลกที่ต้องการสันติสุข พวกคุณ คือผู้ก่อการร้ายทำลายการอยู่ร่วมอย่างพหุวัฒนธรรมอย่างสิ้นเชิง

ผลการกระทำของโจรใต้ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นเจ้าหน้าที่ทหาร ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย เสียชีวิต 1 นาย พระสงฆ์ได้รับบาดเจ็บ 1 รูป มรณภาพ 1 รูป ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 ราย รายละเอียดดังนี้.-

          1.จ.ส.ท.ชนันท์ พุ่มพิพัฒน์ (บาดเจ็บ)
          2.ส.ท.พูนศักดิ ์ วรรณวีระ(บาดเจ็บ)
          3.ส.ท.วรรรณใหม่ ราคะโน (เสียชีวิต)
          4.พระพยอม ฐานวุฑโฒ (บาดเจ็บ)
          5.พระเอกพล อินทโร (มรณภาพ)
          6. นายนิวัฒน์ นิมะ (บาดเจ็บ)
          7. นางสมใจ วิเศษสุวรรณภูมิ (บาดเจ็บ)
          8. นายสุวาท คงอินทร์ (บาดเจ็บ)

เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องนำผู้บาดเจ็บส่งทำการรักษาตัว รพ.ยุพราชสายบุรี ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสส่งรักษาตัวต่อโรงพยาบาลปัตตานี
อนึ่งจากการลอบระเบิดของกลุ่มขบวนการโจรใต้ในครั้งนี้...จากข้อมูลพบว่าจุดที่มีการลอบวางระเบิดเป็นถังแก๊สปิกนิกสีส้ม ขนาดบรรจุ 4 กก. น้ำหนักรวมส่วนสังหารเมื่อประกอบเป็นวัตถุระเบิดแสวงเครื่องประมาณ 20-25 กก. ดินระเบิดหลัก เป็นดินระเบิดแรงสูงผสมเอง     
(HME)เหล็กเส้นตัดท่อนความยาวคละขนาด จุดระเบิดด้วยเครื่องมือสื่อสารใช้การควบระยะใกล้โดยใช้วิทยุสื่อสาร ยี่ห้อ Tyt.....

ที่น่าสังเกตคือผู้ที่ทำการใส่บาตรในจุดนี้เป็นผู้หญิงที่ทุพลภาพ เพราะฉะนั้นระยะเวลาในการใส่บาตรพระภิกษุสงฆ์ล่าช้า ส่งผลให้โจรใต้ฟาตอนีซึ่งรอจุดระเบิดอยู่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำปัตตานี สามารถมีเวลาและมองเห็นเป้าหมายอย่างชัดเจน จนนำมาซึ่งความสูญเสียดังกล่าว
จากเหตุระเบิดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพระ ขณะบิณฑบาต บริเวณตลาดเทศบาลอำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี  เหตุความรุนแรงครั้งนี้ทำให้องค์กรภาคประชาสังคมหลายองค์กรร่วมกันออกแถลงการณ์ประณามความรุนแรงรวมทั้งมีข้อเรียกร้องต่อเจ้าหน้าที่รัฐและผู้ใช้ความรุนแรงทุกฝ่ายให้หยุดการกระทำดังกล่าว


ความโหดร้ายโจรใต้ที่สายบุรี ทำร้ายประชาชน ฆ่าได้แม้กระทั่งพระสงฆ์

สำนักจุฬาราชมนตรี ได้แถลงการณ์การฆ่าและทำร้ายพระ นักบวช ผู้นำศาสนา ตลอดจนประชาชนผู้บริสุทธิ์, สมาคมเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ แถลงการณ์ ฉบับที่ 2/2558ประณามการใช้ความรุนแรงต่อพระ สตรี ประชาชนผู้บริสุทธิ์ และเป้าหมายอ่อนแอ, สหพันธ์นักเรียนนักศึกษาเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ แถลงการณ์ ฉบับที่ 4/2558ประณามการใช้ความรุนแรงต่อพระ ประชาชนผู้บริสุทธิ์ และเป้าหมายอ่อนแอ, ชาวไทยพุทธ แถลงการณ์ฉบับพิเศษ 1/2558ประณาม  การฆ่า ผู้นำศาสนาพุทธ ประชาชน และชุดคุ้มครองความปลอดภัยพระสงฆ์, เครือข่ายอาสาสมัครปกป้องพุทธศาสนา จังหวัดยะลา แถลงการณ์ เรื่อง เหตุการณ์ความไม่สงบในอำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานีและแถลงการณ์คณะสงฆ์จังหวัดปัตตานี เรื่อง เหตุการณ์ความไม่สงบในอำเภอสายบุรี
รายละเอียดเพิ่มเติม http://www.deepsouthwatch.org/node/7459

ในขณะที่หลายองค์กรได้ออกมาแสดงความเสียใจและประณามการกระทำของขบวนการโจรใต้ แต่ไม่น่าเชื่อว่าสื่อแนวร่วมขบวนการโจรใต้ เพจ: Patani Peace กลับออกมากล่าวว่า พระตายคนเดียว ดราม่ากันทั้งประเทศ ทั้งที่ในช่วงเดือนรอมฎอน กลุ่มคนติดอาวุธ ก่อเหตุยิงและระเบิดต่อผู้นำท้องถิ่น, ผู้นำศาสนาอิสลาม และราษฎรไทยมุสลิมที่เดินทางไปละหมาดที่มัสยิด แต่กลับไม่มีการพูดถึง เหตุใดสังคมจึงไม่เห็นความสำคัญ

กลุ่มคนติดอาวุธที่ทำการก่อเหตุสร้างสถานการณ์ตลอดระยะเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมาไม่ใช่กลุ่มขบวนการโจรใต้ฟาตอนีหรอกหรือ? ที่สร้างความเดือดร้อนไปทั่วทุกหย่อมหญ้า ทำการเข่นฆ่าชีวิตผู้คนเสมือนผักปลา แม้กระทั่งเดือนรอมฎอน เดือนแห่งการทำความดียังไม่ละเว้น กลับชี้นำให้สมาชิกแนวร่วมทำการก่อเหตุด้วยการบิดเบือนหลักศาสนา และจูงใจที่ผิดๆ การฆ่าชีวิตคนในเดือนนี้จะได้รับ ผลบุญร้อยเท่าพันทวีคูณซึ่งในความเป็นจริงไม่มีศาสนาไหนในโลกนี้ส่งเสริมให้การฆ่าคนแล้วได้บุญ ทุกศาสนาได้สั่งสอนว่าการกระทำดังกล่าวเป็นบาป

ประชาชนที่หลงเชื่อกับคำโฆษณาชวนเชื่อของกลุ่มขบวนการที่ผ่านมา เริ่มเห็นธาตุแท้ของไซตอนและซาตาน ที่แฝงกายอยู่ในร่างคน เพราะทุกการกระทำคือคำตอบไม่ต้องให้ใครชี้นำกล่าวหาว่ากลุ่มขบวนการไม่ดี...อีกไม่นานองค์กรชั่วร้ายจะล่มสลาย เมื่อนั้นประชาชนปาตานีจะนอนตาหลับไม่ต้องฝันร้าย...สันติสุขที่ทุกคนต่างรอคอยจะมาถึง.....

-----------------------

7/24/2558

هل الدين هو معركة حقيقية؟. المحافطات الجنوبية


 هل الدين هو معركة حقيقية؟. المحافطات الجنوبية
اسنيابون نونتيءباقون""
          فطاني الماليزية استقرت مجموعة كبيرة من الناس الذين يعيشون بأعداد كبيرة في المحافظات الحدودية الجنوبية من تايلاند الرزق من باتاني. ناراثيوات ويالا بما في ذلك أجزاء من سونجكلا. عدد سكانها 3359000 نسمة أو 3 في المئة من السكان. فطاني الملايو، معظمهم من المسلمين. مثل الغالبية العظمى من سكان ماليزيا. لغة الملايو باتاني تطلق على نفسها اسم "على كوريا الشمالية راي" (أورانغ ملايو، اورڠ ملايو)، وهو ما يعني "ملايو"
          في الوقت الحاضر، تايلاند، يبقى الملايو اللباس الملايو العرقية أن ينظر إليها في كل مكان خصوصا في المحافظات الجنوبية الثلاث، والرجال لا يزال ارتداء ردائه للارتداء. النساء ارتداء ملابس الباتيك هناك الحجاب الإسلامي في ماليزيا. تغيرت اللباس الثقافي الحالي من المسلمين في ماليزيا. الملايو تجعل المنطقة أكثر حداثة، مع فستان نموذجية من ماليزيا ولكن لا يزال هناك هوية الملايو. وتأسست الإسلام بحزم
          لغة الملايو هو مسلم ورع. مع صلاة (صلاة) في المسجد أو المعبد الذي قام به كل من الحج إلى مكة المكرمة والصيام بعد رمضان هو الدخل هالي الحفلات. حفل زفاف (ومهد ذلك لو) الختان (MA ميسو جاوي) لإظهار أنه غير مسلم. كل مسلم هو أن نؤمن بالله، رب. إله واحد للإسلام فقط
          ازدهار المجتمع التكنولوجي تدفق الثقافة الغربية قد حان في وأن يكون لها تأثير على الحياة اليومية للناس. فضلا عن طريقة 
الملايو الحياة. ويزعم الهجوم لدينا مجموعة معينة من الناس أن تايلاند لأن الحكومة كانت تحاول ابتلاع واستيعاب القوى تايلاند

الدعاية من أولئك الذين لا يرغبون أن الهوية. وابتلع طريقة الملايو الحياة وتسلل حكومة تايلاند ليست صحيحة على الإطلاق. لا يتم فقدان الملايو من المحافظات الحدودية الجنوبية الثلاث هذه. يبقى تايلاند، وكانت الحكومة تشجع الحفاظ على الملايو في المحافظات الثلاث، وليس للموت. بما في ذلك جميع القطاعات من أجل التركيز على الثقافة والهوية واللغة والتراث الماليزية للأجيال الشابة
          في وسائل الاعلام الاجتماعية، في محاولة لخلق مجموعة موحدة من الناس للقتال ضد حكومة تايلاند. تم نشره. "نناضل من اجل تحرير وإعادة الاستقلال "كما الفيروسية من خلال تشويه التاري. من الناحية النظرية المعركة في ثلاث محافظات الحدود الجنوبية
          في الواقع، تايلاند ليست دنبي في دار لل. (لا بلد للحرب للدفاع عن الإسلام. أو لتحرير أرض الإسلام) بسبب الجهاد (القتال في سبيل الدين)، يجب عليك أن تنظر ومحمية الإسلام الدين الرئيسي التالي أم لا، من المسلمين الحق في المواطنة والمشاركة في الحكم. أو لا، والأرض التي كانوا يعيشون فيها ومعيشة المسلمين لا تزال ملكا للمسلمين ناجحة، مهدد نشر الإسلام وحرية الدين، أو حرمان المظلوم؟ وهلم جرا
          ويمكن أن ينظر إلى تايلاند جلالة الملك كرئيس للدولة. له فضائل والداعم للأديان في المنطقة. الناس تايلاند من جميع الأجناس والأديان محظوظون جدا أن يكون في أرض تايلاند. الملك الذي ملأ فضائل. وقدمت دستور مملكة تايلند من ذلك بكثيراصطناعية في إدارة جميع الأجناس والأديان دون تمييز. وأن حقوق المساواة في المواطنة. المسلمون في تايلاند للحصول على الحقوق. ليس هناك جهاد (وقاتلوا في سبيل الدين)، وذلك لأن المسلمين تحت حكم غير المسلمين لا تحظرها أحكام الإسلام على الإطلاق
          لأن تعاليم الإسلام. التعرف على الاختلافات وتنوع الأديان والثقافات. وكذلك التنوع العرقي إذا أي عمل أو قول. لإظهار أن الإسلام يكره. الطوائف الدينية الهجومية والمجموعات العرقية الأخرى. أعتقد أنه من الصحيح أم لا. المحافظات الجنوبية الثلاث هي اليوم. إذا كان هذا هو النضال من أجل تحرير الدين حقا لم يفعل، ومع ذلك، فإنه ليست مسألة الدين. ولكن بعض الناس كانوا يزرعون شعور وفهم الجماعات العرقية. تاري والمطالبات العنصرية ولقيادة الكفاح من أجل التمييز العنصري والأقاليم. هذا مخالف لتعاليم الإسلام، حرفيا
          النبي محمد (عليه الصلاة والسلام.) تم إرسالها إلى بعثة رحمة للعالم. ودعوة الناس إلى عبادة الله وحده. رجل ولد على هذه الأرض. هو عبادة الله. كما قال ذلك. "وأنا لم تكن قد أنشأت الجن والإنسان إلى أي خارج جاكرتا سجدت لي" (51: 56)، وليس بسبب الصراع على السلطة الذي أعقب الاستقلال. تايلاند دجال .... لأن كل شيء في الوقت الحالي
الأحداث الآن أعمال قطاع الطرق، والشمال الأقصى، المزيد من الوقت، خلص أكثر بقسوة أن جهادهم الوصول الآن إلى لا حدود لها. لأن هناك الكثير من الناس الأبرياء الذين عانوا من خسائر فادحة على أيدي لصوص تحت سماء نيس. الأشخاص الذين يعانون الماليزية العنف بالملل مارينغو
          في الواقع، ... الجهاد ليست أداة في الحرب ضد الأبرياء. لا يعني تدمير أرواح وممتلكات الأبرياء. ليس أداة لاستخدامها ليستأسد على الضعيف والمظلوم. ما إذا كانت سوف تحترم أي دين. ولكن، نقلا عن عقيدة الجهاد لتدمير حياة وممتلكات الأبرياء والبضائع المسروقة تحت السماء الجذع هو. يعتبر عملا غير صحيح وفقا لمبادئ الشريعة الإسلامية. العمل "فا سبلاش" (الإفساد في الأرض)
          لذلك دعونا نعط كل الملايو مسلم فهم تصرفات الحركة من أجل أقصى الشمال، في حين أن السارق ليس معركة حقيقية. ولكن الوضع لصالح أشخاص معينين، ولكن ادعى كان هذا النضال العظيم لأسباب دينية الشمال الأقصى. دعونا نصلي معا كل الاخوة الملايو كريات العصابات الشرسة في إطار وقف القتل السماء جدعة وتدمير الأبرياء ... وتوسل اللصوص إلى أقصى الشمال، ووقف العنف ونزع القتلى. لأن العنف ليس هو الحل ولن يكون مستقلا لأن مرساة الأنسجة 11 عاما، لكن الخسارة بعد أن يرى الضوء في نهاية النفق بعد
          يريد حاضنة الفتنة وتشويه محاذاة أسفل. لمواصلة الكفاح من أجل الجهاد. (وقاتلوا في سبيل الدين) التي أدت إلى خسائر في الأرواح والممتلكات من الأبرياء هو الكثير. غرر أعضاء التحالف وبعض عند حض الحقيقة ظهره
          هذه العملية عن طريق الإبلاغ عن طلب حضور للسلطات لجلب الناس إلى ديارهم. للعودة ... إلى الحياة الطبيعية مع عائل
الدين هو مسألة إيمان، أنه حساس لمشاعر. يجب على جميع التجمعات تتبع تعاليم النبي. حركة الجنوب أكتون الأقصى الشمالية هذا شوهت تعاليم بعض إعادة تشكيل الدينية. ثم الإمام لديه المصداقية لإلقاء محاضرة في مواقع مختلفة. لإقناع الناس للاستماع إلى توافق إعادة تقييم. رفض المشاركة من خلال المنظمات العضوية. إلى أي مدى هو جذوعها لص التي أدت الشباب للانضمام إلى الحركة على مدى العقود مع كمية سار بطريق الخطأ في دوامة الشر. هناك مراحل الكيسي بزيمبابوى من سبب الوضع الناشئ عن طريق الخطأ يعتقد أن الكفاح من أجل الجهاد، يجب على الآباء علم الحركة الجنوبية أكتون. يجب أن يفهم طفلك لمعرفة الحقيقة. ولم تصبح حركة أداة تستغل بعد الآن، لأن الحركة أيرلندا .. ولا  الإقليمي دار دنبي أن يدعي على الإطلاق.....

---------------------------

7/23/2558

BenarkhahWilayah Sempadan Selatan AdalahTempat PerjuanganUntukAgama ...?


BenarkhahWilayah Sempadan Selatan AdalahTempat PerjuanganUntukAgama ...?

                Melayupataniadalahsekumpulan yang hidupdalamjumlah yang besar di wilayahsempadanselatan Thailand diselesaikanrezekidariPattani.Narathiwat Dan YalaTermasukbahagianSongkhladenganjumlahpenduduk 3.359.000 orang, atau 3 peratusdaripadajumlahpenduduk.MelayuPatani, kebanyakannya orang Islam. Sepertimajoritipenduduk Malaysia.MelayuPattanimenamakandiri" OrangMelayu." (Orang Melayu; اورڠملايو). Inibermaknabahawa "Orang Melayu".
                Padamasaini, pakaianMelayuetnikMelayumasihbelumdapatdilihat di mana - mana.Terutama di tigawilayahselatan, lelakimasihmemakaikainsarungWanitamemakaipakaian batik Terdapatjilbab Islam di Malaysia pakaianbudayasemasaumat Islam di Malaysia telahberubah. Melayumembuatkawasan yang lebihmoden, denganpakaiankhasdari Malaysia. TetapimasihadaidentitiMelayu. Dan Islam yang cukupkekuatannya
                MelayuadalahseorangMuslim yang taat.Dengansolat (Sembahyang) di masjid ataurumahMasjid yang dilakukanolehkedua-dua haji keMekah danberpuasa dibulanRamad hanadalahhariperayaan dalamharirayasatumajlisperkahwinan (Makanpulut) sunat (Masokyawi) untukmenunjukkanbahawadiaadalahseorang Muslim.Setiap orang Islam adalahuntukberimankepada Allah, Tuhan.SatubagiumatIslam sahaja.
KemakmuranmasyarakatteknologiKemasukanbudaya Barat telahdatang danmemberiim pakkepada kehidupanharianrakyat. Serta caraMelayuhidup. Seranganitudidakwamempunyaikumpulantertentu orang Thailand keranakerajaancubauntukmenelandanmenyerapdaya Thailand.
                Propaganda dari orang-orang yang tidakmahuidentitiitu.Gaya hidupditelandanmenyusupkerajaan Thailand tidakbenarsekalipun.Orang Melayutidakhilangdaritigawilayahsempadanselatanini.tetapimasihkekal, dankerajaantelahmempromosikanpemuliharaan orang Melayu di tigawilayah, tidakberhilangtermasuksemuasektoruntukmemberitumpuankepadabudaya, identiti, bahasa, warisanMelayukepadagenerasimuda.
                Dalam media sosial, telahusahauntukmewujudkankumpulan yang bersatu orang untukmemerangikerajaan Thailand.Iatelahdisiarkan. " berjuanguntukpembebasan Dan untukmembinakemerdekaan "sebagai virus olehmemutarbelitkansejarah. Dari segikonseppertempuran di tigawilayahsempadanselatan.
Sesungguhnya, Thailand bukanDarulharbi(bukannegarayang berperanguntukmempertahankan Islam.Atauuntukmembebaskantanah Islam) kerana Jihad (berperangpadajalan agama), andaperlumengambilkirakunciberikut Islam telahdilindungiatautidak, umat Islam mempunyaihakuntukkewarganegaraandanpenyertaandalammentadbirnegaraatautidak, tanah airadalahgayahidupdantempatmencarirazkibagiumat Islam menjadihakmilikdankebebasanberagamaterancam, dilucutkanatautertindas? dansebagainya.
                Iabolehdilihatbahawa Thailand Majesty Raja sebagaiKetua Negara. Fadhilatdanpenegak agama di rantauini-Nya. Orang thailandsemuakaum, agama adalahsangatbertuahkerana di tanah Thailand. Raja, yang telahdiisiFadhilat.Dan PerlembagaanKerajaan Thailand, kesaksamaansemuakaum, agama


tadbirtanpadiskriminasidanbahawahakkesaksamaankewarganegaraan.Umat Islam di Thailand untukmendapatkanhak.Tidakada jihad (Dan perangilah di jalan agama), kerana orang-orang Islam di bawahpemerintahanbukan Islam tidakdilarangolehperuntukan-peruntukan Islam sekalipun.
Keranasyariat Islam.Mengenaliperbezaandankepelbagaian agama danbudaya.Serta kepelbagaianetnikJikaapa-apatindakanataupernyataanitu.Untukmenunjukkanbahawa Islam bersabar. Jemaah agama ganasdankumpulanetnik lain. Sayaberfikirbahawaiabetulatautidak. Ketiga-tigawilayahselatanhariinijikaiaadalahsatuperjuanganuntukmembebaskan agama yang benar-benartelahdilakukan, bagaimanapun, iabukanlahsatuperkara agama. Tetapibeberapa orang telahditanam rasa danmemahamikumpulanetnik.Sejarah Dan tuntutankaumdanuntukmemimpinperjuanganuntukdiskriminasitanahselatanIniadalahbertentangandenganajaran Islam, secara literal.
                Nabi Muhammad (SL.) telahdihantarkemisirahmatkepadadunia.Dan mengajakmanusiauntukmenyembah Allah sahaja.Orang yang dilahirkan di mukabumiini.Adalahuntukmenyembah Allah.Seperti yang Iakatakanitu "Dan akutidakmenciptakanjindanmanusiakecualiuntukberibadahkepada-Ku" (51: 56), bukankeranaperebutankuasa yang diikutikemerdekaan. Thailand penyamar ....keranaNegara Thailand telahmemberisegala-gala haknya.
                PeristiwainiTindakanpenyamunhari yang panjangpasifmenyimpulkanbahawa jihad merekakinimengaksestanpa had itu. Olehkeranaterdapatramai orang yang tidakbersalah yang telahmengalamikecederaanberat di tanganperompakdibuatmasalahMelayuawam.
                Malah, ... jihad itutidakadalahalatdalamperangterhadapmereka yang tidakbersalah. Tidakbermaknakemusnahannyawadanharta orang yang tidakbersalah.Bukanalat yang akandigunakanuntukmembuli yang lemahdantertindas. Samaadamerekaakanmenghormatimana-mana agama tetapi, memetikdoktrin jihad kepadakemusnahanjiwadanharta orang yang tidakbersalahdanbarang-barang yang dicuri. Dianggapsesuatuperbuatan yang salahmengikutprinsip Islam.Tindakan "Fa Sash" (kerosakan di mukabumi).
                Olehitu, marilahkita orang Melayu Islam memahamitindakanPergerakannegara Utara Jauh, manakalapencuribukanperjuangansebenar.Tetapikeadaanuntukkepentingangolongantertentu, tetapituntutanuntukmenjadiseorangpahlawan yang berjuanguntuk agama marikitaberdoabersama-samasetiapsaudaraMelayuKiryatdoauntukpenjenayahberhentimembunuhdanmemusnahkan orang-orang yang tidakbersalah ... danmemohonperompakuntukmenghentikankeganasanKeranakeganasanbukanpenyelesaiandantidakakanbebaskeranasauhtisu 11 tahun, tetapikerugianmasihbelummelihatcahaya di hujungterowonglagi.
                Diahasutandanmemutarbelitkanjajaranbawah.Untukmeneruskanperjuangan jihad. (Fight padajalan agama) yang membawakepadakehilangannyawadanharta orang yang tidakbersalahadalahbanyak. AhliGabungandanada yang tertipuapabilakebenarandiberipengajaranberpalingmenentanggerakandenganmelaporkanpermintaankehadirankepadapihakberkuasauntukmembawa orang-orang pulangkerumah.Untukkembalikepadakehidupan normal dengankeluarganya ...
                Agama adalahsuatuperkara yang suci, iaadalahsensitifkepadaperasaan. SemuajemaahmestimengikutajaranNabi.Pergerakantelahmengubahajaransesetengahkonfigurasi agama.Kemudian Imam mempunyaikredibilitiuntukkuliah di pelbagailokasiuntukmeyakinkan orang ramaiuntukmendengarbersetujudinilaisemula. Engganmenyertaipengganassebagaisatucarauntukmenarik orang mudamenyertaipergerakanbarangandicurisejakbeberapadekadlaludenganjumlah yang tersilapberjalankedalampusaran air yang jahatsatu proses yang beroperasibersumpahkeadaankeganasan yang diciptaolehtersilapmenyangkaperjuanganuntuk jihad, ibubapamestisedarperompakpergerakan. MestiMemahamianakandauntukmengetahui yang sebenar. Dan tidakmenjadialatyang dieksploitasilagi, keranaThailand ..bukantanahDarul-harbisepertiPergerakan yang mendakwajua ...

……………………………………

ويلايه سلاتن.اداله تمفتن فرلاوانن...اونتوق أوئامكه؟

ويلايه سلاتن.اداله تمفتن فرلاوانن...اونتوق أوئامكه؟


          رعية ملايودفطاني اداله رامي يغددودوق دغن باثقث دالم تمفتن ويلايه دسلاتن نئاراتهأي دلتقكن دغن لام ماس فكرجأن فنخارين كهيدوفن سمنجق درفدويلايه فطاني ويلايه جالا دان ويلايه ناراتيوات برسامأن جوئ ستغه دتفتن ويلايه سوغكلا ادرعية سمواث 3359000 اوراغ اتو 3 فراتوس بائي سموارعية سلوروه نئري رعية ملايوفطاني كباثقكنث برأوئام اسلام بئيتوجوئ دغن رعية دنئري ماليزيا رعية فطاني دفغئيل ديري سنديري
,,اوراغ ملايو،،
ماس سكاراغ رعية تهأي بغساملايوبرفكاين دغن فكاين ملايويغدنمفق دغن سراتث
          لبيه – لبيه لائي دالم تمفتن دتيئ ويلايه دسلاتن للاكي برفكاين دغن كأين ساروغ فرامفوان فكايه دعوه سبائي رعية مسليم دالم نئري ماليزيا سكاراغ رعية ملايودالم تمفتن برلأين تمبه باثق دغن منيروخونتوه مغيكوت نئري ماليزيا تتافي برفكاين دغن فكاين ملايو دان اسلام دغن تتفث رعية ملايومسليم يغبرتقوى دالم اوئام مغرجاكن سمبهيغ دالم مسجداتوسوراو دان مغرجاكن حاج دنئري مكه برفواس دان سلفس دري فواس برهاري راي دان مغادا قركهوينن(ماكن فولؤ)دان برسونة (ماسوق جاوي)سفاي منونجوق كاتث مريك ايله اوراغ مسليم سموااوراغ مسليم برتقوى كفدالله ساتوسهاج بائي مريك يغبراوئام اسلام كماجوان دري سيكولويي مغاداكبودايأن دسبله جاتوه دماسوق دان مثتوه كفدكهيدوفن فرهارين بائي رعية بئيتوجوئ كدودوقكن رعية ملايوتتافي كنمفقكن بائي ساتوكومفولن يغبرلأينن كنمفقكن دغن فيحق كراجأن كاتث سبب كراجأن تهأي برفيسه سفاي مسرادالم كجادين كدوكوقكن دغن خارا تهأي
فغئيلن سفاي ممبري كفرخايأن درمريك يغ تيدق بأيك ايت كاتث كهيدوفن ملايودهيلغ اتودتلغ اوليه فيهق كراجأن تهأي دان ممبري فراسأن كاسيه مسرادغن فيهق كراجأن تهأي ايت بوكنله فركارايغ بنراوراغ ملايو تيدق هيلغ دري تمفتن دالم تيئ ويلايه سلاتن
          اين هاث دفيهق كراجأن دمثوكوغ دان ممباغون كبودايأن دغن خاراملايودالم تمفتن دويلايه فطاني برسرسام جوئ دغن ستيف تمفة ممبري كفنتيغن كفدكبودايأن بهاس ملايوكفدانق خوخولائي اكن داتغ دالم كبريتأن سغكوم اونلأين برفيسه كفد كومفولن فئانسن دالم كأدأن يغ مغاجقكن فموداسفاي مننتغ دغن فيهق كراجأن تهأي يغبرايسي كندوغنث ,,برلاوانن اونتوق كبيبسن دان اونتوق ككواسأن،،ايت ممبري فراوبهن سجاره سفاي ممباغون فرلاوانن دالم تمفتن دتيئ ويلايه دسلاتن


سسئوهث نئري تهأي بوكن دارالحربي(بوكنله نئري ممفرموسوهن اوننتوق اوئام ؤسلام اتواونتوق بله بائي تمفتن اسلام)كران جهادايت فرلاوانن كجالنن اوئام)ايت كناممبري كفنتيغن يأيت اوئام اسلام دافة فنجائأن اتو تيدق،مسليم ادحق دالم ككواسأن دان برسام كأدأن بركنأن دغن نئاراكه تيدق،تمفتن مسليم يغددودوق فرخارين كهيدوفن ايت دباواه ككواسأن بائي مسليم كه تيدق،بردعوه دغن سخارامسليم ايت دكنائغئوكه تيدق،دمكين كنمفقكنث نئاراتهأي ايت ادراج نئري يغمنجادي كتوابائي نئارا دان ادكعاديلن دالم ستيف جالنن كعاديلن يغ فنجاجهث رعية دالم نئري تهأي ستيف بغسادانستيف اوئام دافة نصيب بأيكله يغدافة دودوق دالم نئري تهأئ يغ ادراج فرنوه دغن كعاديلن دان رختمنون بائي سلوروه نئاراسفاي ممبري كعاديلن كجالنن ككواسأن ستيف اوئام بغسادغن تيدق بائي بله فيهق مسليم سموادافة ككواسأن برسام – سام دغن يغلأين جوئ بئيتوله تيدق ادجهاد (فرلاوانن اونتوق اوئام) دغن سببث فيهق فمرينته اوليه فيهق كراجأن دباواه ككواسأنث تيدق برتينقكن  اتودلاراغ اونتوق مغرجاكن كجالنن اوئام ترهادف مسليم سموا 
          نبي محمد(ص) دافة مرينته درفدالله بردعوه دان كاسيهن بلس ترهادف رعية سلوروه دونياسفاي برتقوى كفدالله ساتو سهاج الله برفرمان "دان اكو جاديكن جين دان مأنسي دأتس دونيا اين اونتوق برتقوى فدكو"(51:56) بوكنله اونتوق لاوان سفاي ككواسأن يغمان كومفولن دكاتكن سسوغئوهث...برجهادبوكنله الة اونتوق فرلاوانن ترهادف مريك يغ بنربوكنله بونوه ممبونوه جيوا
مأنسي دان ممبيناسكن فمباغونن
          باثقله رعية يغ بنر ايت دكنابونوه اوليه كومفولن فئانسن فطاني ايت بوكنله يغ مغيكوت جالنن اوئام اسلام كران فربواتن ايت دفغئيلكن فكرجأن فحشر (ممبيناسكن دونيا) كومفولن فئانسن ممباغون كسماغتن فرسليسيهن سجاره ترهادف يغبرسامث برلاكوكن فرلاوانن سفاي جهاد(فرلاوانن جالنن اوئام) ايتله يغ ممباوأكن باثق كماتين دان كبيناسأن ترهادف رعية يغ بنردان ادايغ تاهوكاتث كناتيفوافبيل تاهوفركارابنركات كناتيفومريك فون فاليغ بلاكغ كفدكومفولن فئانسن دغن جالنن مثرهكن ديري ترهادف فيهق كراجأن دغن كروغكان ممباوأاوراغ باليق كرومه سفاي كومبالي برسام دغن كلوارئ سفرت بياس
          اوئام ايله فرخاي دغن كدالمي دالم فرخايأن سموامأنسي واجب فكرجأن مغيكوت جالنن اوئام دان مغيكوت سوننه رسول الله(ص) كومفولن فئانسن فطاني منونجوق جالنن فلاسليسيهن كجالنن اوئام يغ بارو دان ممبري تؤايمام ممبري فنخرامه سرات تمفة سفاي يغمان فندغرسموافرخاي دان منوروت جالنن كومفولن فئانسن دان ماسوق ككومفولنث اين اداله جالنن فئانسن فطاني مغاجقكن فمودابرسام دغن كومفولن دغن سلام ماس دان باثق اوراغيغ ماسوق سومفه برسام دغن كومفولن سفاي مغرجاكن كسالهن كاتث ايت اداله فرلاوانن جهاد
          ايبوباف سمواهارفله تاهوجالنن كومفولن دسلاتن ممبري كفاحمن كفدانق خوخوسمواكجالنن يغبنردان منجأوهله انق خوخوسمواكجالنن يغدتيفواوليه كومفولن فئانسن دالم نئري تهأي...بوكنله نئري دارالحربي يغدمكين كومفولن داكوي سمواث...
...................

7/21/2558

ผู้เสียชีวิตเหตุปะทะ‘ตันหยงเปาร์’คือผู้ร้ายตัวจริง..

แบดิง โกตาบารู

จากกรณีเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย ได้สนธิกำลังเข้าติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่บ้านตันหยงเปาว์ หมู่ 4 ตำบลท่ากำชำ อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เมื่อ 20 กรกฎาคม 2558 ผลจากการปฏิบัติได้เกิดการปะทะเป็นเหตุให้ ผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิต 2 ราย ควบคุมตัว 1 ราย และตรวจยึดอาวุธ ปลย.เอ็ม.16 จำนวน 3 กระบอก ลูกระเบิดขว้างแบบมาตรฐาน 2 ลูก ระเบิดแสวงเครื่อง 1 ลูก และยุทโธปกรณ์อื่นๆ อีกหลายรายการ
หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 24 ซึ่งเป็นหน่วยรับผิดชอบ ได้ชี้แจงเพิ่มเติมถึงการปฏิบัติการดังกล่าว เริ่มในเวลา 03.00 น. คนร้ายได้หนีลงน้ำแล้วทำการยิงใส่เจ้าหน้าที่ จึงได้เกิดการปะทะขึ้น ส่งผลให้คนร้ายเสียชีวิต จำนวน 2 ราย
ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 24 ได้สร้างความเข้าใจ ชี้แจงให้ผู้นำศาสนา และประชาชนในพื้นที่รับทราบถึงการปฏิบัติการดังกล่าว และผู้ที่เสียชีวิตทั้ง 2 ราย เป็นผู้ร้ายจริงๆ ไม่ใช่ผู้บริสุทธิ์ ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติพบมีหมายจับ ป.วิอาญา รวมกันหลายหมาย มีพฤติกรรมเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ ทั้งการลอบยิง และลอบวางระเบิด สร้างความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่รัฐและพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ เป็นจำนวนมาก รายละเอียดดังนี้.-
          1.นายมูฮัมหมัด ชิติเลาะ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/9 หมู่ที่ 5 ตำบลบาราเฮาะ อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี เป็นสมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการ เป็นบุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดปัตตานี จำนวน 4 หมาย
          1.1 หมายจับที่ 667/52 ลง 26 ต.ค.52 จากกรณีเหตุยิง นายบุญเจือ สมมาตร เสียชีวิต เหตุเกิด บ้านเลขที่ 150/3 ม.3 ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เมื่อ 20 ส.ค.52
          1.2 หมายจับที่ 704/52 ลง 6  ธ.ค.52 จากกรณีเหตุยิง นายสุนทร ช่วยมาก และนายอารี ศักดิ์เนียนแก้ว ได้รับบาดเจ็บ ส่วน นางนันทพร ชัยชนะ เสียชีวิต ที่ร้านอาหารอีสานใต้ ม.1 ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เมื่อ 26 พ.ย.52
          1.3 หมายจับที่ 240/53 ลง 16 ก.ค.53 จากกรณีเหตุยิง พ.ต.หญิงนาราทิพย์ แก้วถาวร พยาบาล ร.พ.ค่ายอิงคยุทธบริหาร เสียชีวิต เหตุเกิด ถ.เพชรเกษม (นาเกตุ-นาประดู่) ม.1 ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เมื่อ 21 พ.ค.53
          1.4 หมายจับที่ 198/57 ลง 16 ก.ค.57 กรณีเหตุยิงกราดใส่ร้านขายของชำไม่มีเลขที่ ริม ถนนสายนาประดู่-วัดทรายขาว ม.3 ต.ทรายขาว อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี กระสุนถูกนางเกศนี เสียชีวิต เมื่อ 15 มิ.ย.57
          2.นายมูฮำหมัดเปาซี สาเมาะ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33/4 หมู่ที่ 3 ตำบลทุ่งพลา อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี เป็นสมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการ/มือประกอบระเบิด เป็นบุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดปัตตานี จำนวน 1 หมาย คือ หมายจับที่ 123/51 ลง 31 ม.ค.51 จากกรณีเหตุยิง นายสุวิทย์ บุญสนิท ครูโรงเรียนบ้านเกาะตา เหตุเกิดบริเวณถนนสายปัตตานี - ยะลา ที่ ม.3 ต.ทุ่งพลา อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เมื่อ 24 ม.ค.51
          เจ้าหน้าที่ได้ทำการควบคุมตัว นายละมาแอ สาและ อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82 หมู่ที่ 4 ตำบลท่ากำชำ อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ ไปดำเนินกรรมวิธีซักถามและสอบสวนตามขั้นตอนของกฎหมาย
          หากเราดูจากประวัติของผู้ที่เสียชีวิตทั้ง 2 ราย จะเห็นได้ว่าเคยทำการก่อเหตุเข่นฆ่าผู้คน สร้างความเดือดร้อนจำนวนหลายครั้ง ไม่ใช่ผู้ที่หลงผิด แต่กระทำความผิดซ้ำแล้วซ้ำอีกโดยไม่คิดจะกลับตัวเป็นคนดี 1 ใน 2 ผู้เสียชีวิตเคยมอบตัวกับเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ในเวลาต่อมาได้หลบหนีประกัน ย้อนกลับมาทำการก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนไม่หยุดหย่อน
          สังคมให้โอกาสและอภัยกับผู้ที่หลงผิดเสมอ เปิดโอกาสให้กลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี หันหลังให้กับขบวนการเพื่อกลับมาพัฒนาบ้านเกิด  โครงการพาคนกลับบ้าน ของ กอ.รมน.ภาค 4 สน. ยังเป็นทางเลือกให้กับผู้ที่ต้องการเข้าร่วม กระแสตอบรับสันติสุขของประชาชนกำลังแรง การเปิดพื้นที่เพื่อการพูดคุยในทุกระดับภาครัฐให้ความสำคัญ...หันหน้าพูดคุยกันเพื่อนำสันติสุขกลับมาสู่ดินแดนปลายด้ามขวานร่วมกัน....
------------------------