กรณีเว็บเพจ Media Informasi
News ได้โพสต์ข้อความ “สันติภาพปาตานีต้องกำหนดชะตากรรมของตัวเอง”
บ่งบอกถึงความต้องการให้พื้นที่ปาตานีเป็นเอกเทศ
ปราศจากการปกครองโดยรัฐบาลไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
รู้ได้เลยว่าเว็บเพจ
Media
Informasi News ไม่ใช่เพจสายกลาง แต่เป็นเพจเฟสบุ๊คของแนวร่วมอย่างชัดเจน
พร้อมที่จะเป็นปากเป็นเสียงให้กับขบวนการฯ
ทั้งนี้เพื่อเป็นการโฆษณาชวนเชื่อในสื่อสังคมออนไลน์ แต่ขอบอกว่า...ทางขบวนการฯ
ไม่จริงใจต่อชาวมลายู ไม่คำนึงถึงความถูกต้อง ไม่เคารพต่อกฎหมาย
มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน ประชาชนไม่มีสิทธิกำหนดชะตากรรมของตัวเอง
แล้วจะครองใจประชาชนได้อย่างไร เวลาที่อาร์เคเคกระทำความผิด ฆ่าคนบริสุทธิ์
สื่อเหล่านี้พร้อมที่จะช่วยเหลือบิดเบือนให้สังคมรับรู้เสมอ....( เลวจริงๆ )
ศาสนาอิสลามสอนไม่ให้ทำลายชีวิตผู้บริสุทธิ์
ไม่ว่าผู้นั้นจะนับถือศาสนาใดก็ตาม กล่าวคือ ไม่ฆ่าเด็ก สตรี คนชรา
พลเรือนผู้บริสุทธิ์ บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ทำสัญญาสงบศึกในระหว่างการทำสงคราม
อิสลามไม่อนุญาติให้ทำร้ายนักบวช ทำลายศาสนสถาน เพราะอิสลามมิได้มีเป้าหมายเพื่อเอาชนะสงครามหรือการต่อสู้เพียงอย่างเดียว
การต่อสู้ในลักษณะของการทำสงครามนั้นจะต้องเป็นไปตามกฎเกณฑ์ของศาสนาตลอดเวลา
อัลลอฮ์(ซ.บ.)กล่าวไว้ในอัลกุรอ่าน ความว่า “ผู้ใดฆ่าผู้ศรัทธาโดยจงใจ
การตอบแทนแก่เขาคือ ขุนนรก โดยที่เขาจะอยู่ในนั้นตลอดกาล และอัลลอฮ์ทรงกริ้วโกรธเขา
ทรงสาปแช่งเขา และได้ทรงเตรียมไว้สำหรับเขาซึ่งการลงโทษอันใหญ่หลวง” (อัล-นิซาอฺ – 93)
การต่อสู้ของโจรใต้ฟาตอนีจะให้เกิดสันติภาพได้อย่างไรในเมื่อไปเล่นงานผู้บริสุทธิ์
ประชาชนไม่มีสิทธิกำหนดชะตากรรมของตัวเองเลย พยายามปลูกฝังเยาวชนให้เกิดความรู้สึกเกลียดชังบาดหมาง
(เกลียดคนซีแย) และรักในเรื่องชาติพันธุ์
เพื่อนำไปสู่การเรียกร้องแบ่งแยกเผ่าพันธุ์
ซึ่งเป็นสิ่งที่ขัดต่อหลักคำสอนของอิสลามที่แท้จริง
อีกอย่างการต่อสู้และเรียกร้องด้วยเงื่อนไขของการเชิดชูความเป็นเชื้อชาตินิยมนั้นเป็นแนวคิดที่พยายามจะสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในสังคมโลก
เกี่ยวกับเรื่องนี้ท่านนบีมุฮัมมัด(ศ็อลฯ)ได้กล่าวไว้ความว่า “ใครก็ตามที่เรียกร้องไปอะเศาะบียะฮฺ(การคลั่งชาติ เผ่าพันธุ์ หลงตระกูล
ถือพวกพ้อง)คนผู้นั้นมิได้เป็นพวกฉัน ใครก็ตามที่ต่อสู้เพื่ออะเศาะบียะฮฺ
คนผู้นั้นมิได้เป็นพวกฉัน และใครก็ตามที่ตายไปเพราะสนับสนุนอาเศาะบียะฮฺ
คนผู้นั้นมิได้เป็นพวกเดียวกับฉัน”(รายงานโดยมุสลิม
อะบาวูดและอันนะสาอียฺ)
ข้อมูลจาก Fatoni negara
ku
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น