7/22/2559

‘พฤติกรรมชั่ว’โจรใต้ก่อเหตุเดือนรอมฎอน

ลมใต้ สายบุรี

 “เดือนรอมฎอนเป็นเดือนแห่งบุญที่พี่น้องมุสลิมส่วนใหญ่ถือศีลอดปฏิบัติตนเองเป็นคนดีมุ่งปฏิบัติศาสนกิจของศาสนา ละเว้นความชั่วทั้งปวง แต่กลับมีกลุ่มขบวนการบิดเบือนหลักคำสอนศาสนา ปลุกระดมให้สมาชิกทำการเข่นฆ่าผู้คนในเดือนนี้แล้วให้มีความเชื่อว่าจะได้บุญหลายเท่า

ทุกศาสนาสอนให้ศาสนิกของตนละเว้นจากการทำบาปมุ่งกระทำแต่ความดี ไม่มีศาสนาไหนในโลกที่สั่งสอนว่าการฆ่าคนแล้วได้บุญ นอกจากการบิดเบือนหลักคำสอนศาสนาขึ้นมาหลอกใช้ให้ผู้คนกระทำความผิด

เดือนรอมฎอนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งในพื้นที่ผู้คนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ในเดือนนี้ผู้คนส่วนใหญ่ต่างตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติศาสนกิจทางศาสนา ซึ่งเป็นเดือนแห่งบุญละเว้นการกระทำความชั่วทั้งปวง
แต่ไม่น่าเชื่อว่าเดือนรอมฎอนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะ 10 วันสุดท้ายของการถือศีลอด กลุ่มโจรใต้ไม่ยำเกรงต่อบาป ยังคงมุ่งก่อเหตุสร้างความสูญเสียให้เกิดขึ้น กระทบต่อประชาชนที่ปฏิบัติศาสนกิจทางศาสนา อีกทั้งมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันที่จะต้องระแวดระวังภัย เหตุการณ์หลายเหตุที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อความรู้สึก มีความเปราะบางต่อการเข้าใจผิด เมื่อมีคนบางกลุ่มบิดเบือนนำไปสู่ความเกลียดชัง หวาดระแวงต่อกัน

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2559 เหตุการณ์คนร้ายยิง นายอับดุลเลาะ โด อายุ 56 ปี โต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิดดารุนมูไฮมี เสียชีวิต ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์บริเวณหน้ามัสยิสตาแกะ บ้านกุหมัง หมู่ 4 ตำบลตาแกะ อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี

ความจริงที่ถูกบิดเบือนในสื่อสังคมออนไลน์กล่าวหาว่าเป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่รัฐ มีการกล่าวอ้างว่าเดือนรอมฎอนเป็นเดือนที่บริสุทธิ์ เหตุที่เกิดขึ้นไม่ใช่ฝีมือมุสลิม ผู้ที่อยู่เบื้องหลังคือหน่วยงานความมั่นคงที่ลอบทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ นั่นคือแผนการโฆษณาชวนเชื่อของกลุ่มขบวนการที่ต้องการใส่ร้ายเจ้าหน้าที่ด้วยการฆ่าผู้นำศาสนาแล้วกล่าวหาเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ

ผลการตรวจสอบวัตถุพยานทางนิติวิทยาศาสตร์ของศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 ศูนย์นิติวิทยาศาสตร์จังหวัดชายแดนภาคใต้ จากการตรวจรองกระสุนปืนรีวอลเวอร์ ขนาด .38 ที่ตกในที่เกิดเหตุ พบว่ามีความเชื่อมโยงคดีในสารบบที่คนร้ายเคยทำก่อเหตุมาแล้วถึง 17 คดี มีผู้เสียชีวิต 15 ราย นับตั้งแต่ปี 2547 ถึงปัจจุบัน ส่วนคดีสำคัญที่เชื่อมโยงคนร้ายกลุ่มนี้คือ เหตุการณ์เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2556 ได้มีคนร้าย 2 คน ขับรถจักรยานยนต์ประกบยิง นายยะโก๊บ หร่ายมณี อิหม่ามประจำมัสยิดกลางปัตตานี เสียชีวิตกลางตลาด ขณะเดินจับจ่ายซื้ออาหารในช่วงเดือนรอมฎอน

จากหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ย่อมประจักษ์ชัดว่าเหตุดังกล่าวเป็นฝีมือของกลุ่มโจรใต้นอกรีต นอกศาสนาฆ่าได้ไม่เว้นแม้กระทั่งผู้นับถือศาสนาเดียวกัน โดยเฉพาะเดือนรอมฎอนเพื่อหวังผลจากการสร้างสถานการณ์ ปลุกระดมหาแนวร่วมให้เกลียดชังเจ้าหน้าที่และรัฐบาลไทย

เหตุการณ์เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2559 เวลา 07.30 น. ความชั่วของโจรใต้มีการซุกระเบิดบริเวณหน้าโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชยะหาเพื่อทำการก่อเหตุ แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่ EOD ทำการตรวจเจอและทำลายเสียก่อน มิเช่นนั้นจะสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่เดินทางผ่านไปมาโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มาหาหมอที่โรงพยาบาล
เหตุการณ์เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2559 เวลา 14.30 คนร้ายลอบวางระบิดทางรถไฟ  บริเวณ  ม.4  ต.สาวอ  อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นเหตุให้รางรถไฟขาด ขบวนรถไฟไม่สามารถวิ่งให้บริการประชาชนในพื้นที่ได้ ต้องหยุดให้บริการในทันที จำนวน 6 ขบวนด้วยกัน ประชาชนที่ใช้บริการรถไฟต่างได้รับความเดือดร้อนกันถ้วนหน้าจากการกระทำของกลุ่มโจรใต้

เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2559 เวลา 19.20 น. คนร้ายทำการลอบวางระเบิดหน้ามัสยิดกลางปัตตานี ซึ่งเป็นระเบิดแสวงเครื่องซุกในกล่องเหล็ก ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตทันที่ 1 นาย สาหัสอีก 2 นาย อีกทั้งประชาชนได้รับบาดเจ็บไปด้วยอีก 1 คน

เหตุการณ์เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2559 เวลา 01.00 น. คนร้ายลอบวางระเบิดอดีตทีมงานจ่าเพียรก่อนที่จะใช้อาวุธปืนสงครามยิงซ้ำ เสียชีวิต 2 ราย ขณะกำลังขี่รถจักรยานยนต์เดินทางออกจากมัสยิด เพื่อกลับไปพักผ่อนที่บ้าน เหตุเกิดบริเวณสะพานข้ามคลอง บ้านบือซู หมู่ 6 ต.บันนังสตา  อ.บันนังสตา จ.ยะลา ซึ่งจากการตั้งข้อสังเกตมีน้อยครั้งมากที่กลุ่มโจรใต้จะทำการสังหารประชาชนด้วยระเบิด แต่ที่น่าหดหู่คือหลังระเบิดมีการใช้อาวุธปืนสงครามทำการยิงซ้ำ

นั่นคือความชั่วช้าสามานของไซตอนร้ายที่สิงอยู่ในร่างคน เป็นการกระทำของคนที่ไร้ซึ่งศาสนา เดือนรอมฏอนเป็นเดือนแห่งการกระทำความดี แต่กลุ่มโจรใต้สุดโต่งกลับก่อเหตุสร้างสถานการณ์ ทำลายบรรยากาศการถือศีลอด ทำลายความสงบของศาสนิกชนที่มุ่งปฏิบัติตามหลักคำสอนของศาสนาความชั่วที่โจรใต้กระทำในเดือนรอมฎอน เราจะต้องร่วมกันสาปแช่งต่อการกระทำดังกล่าว ร่วมกันประณามต่อการกระทำของคนกลุ่มนี้ที่สร้างความเดือดร้อน ไม่ต้องการให้จังหวัดชายแดนภาคใต้สงบสุข สวนกระแสความต้องการของผู้คนส่วนใหญ่ที่อยากอยู่อย่างสันติสุข.


ที่มา: http://www.southernreports.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น