‘ลมใต้ สายบุรี’
“เดือนรอมฎอน”เป็นเดือนแห่งบุญที่พี่น้องมุสลิมส่วนใหญ่ถือศีลอดปฏิบัติตนเองเป็นคนดีมุ่งปฏิบัติศาสนกิจของศาสนา
ละเว้นความชั่วทั้งปวง แต่กลับมีกลุ่มขบวนการบิดเบือนหลักคำสอนศาสนา
ปลุกระดมให้สมาชิกทำการเข่นฆ่าผู้คนในเดือนนี้แล้วให้มีความเชื่อว่าจะได้บุญหลายเท่า
ทุกศาสนาสอนให้ศาสนิกของตนละเว้นจากการทำบาปมุ่งกระทำแต่ความดี
ไม่มีศาสนาไหนในโลกที่สั่งสอนว่าการฆ่าคนแล้วได้บุญ
นอกจากการบิดเบือนหลักคำสอนศาสนาขึ้นมาหลอกใช้ให้ผู้คนกระทำความผิด
เดือนรอมฎอนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ซึ่งในพื้นที่ผู้คนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม
ในเดือนนี้ผู้คนส่วนใหญ่ต่างตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติศาสนกิจทางศาสนา
ซึ่งเป็นเดือนแห่งบุญละเว้นการกระทำความชั่วทั้งปวง
แต่ไม่น่าเชื่อว่าเดือนรอมฎอนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
โดยเฉพาะ 10 วันสุดท้ายของการถือศีลอด กลุ่มโจรใต้ไม่ยำเกรงต่อบาป ยังคงมุ่งก่อเหตุสร้างความสูญเสียให้เกิดขึ้น
กระทบต่อประชาชนที่ปฏิบัติศาสนกิจทางศาสนา
อีกทั้งมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันที่จะต้องระแวดระวังภัย
เหตุการณ์หลายเหตุที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อความรู้สึก
มีความเปราะบางต่อการเข้าใจผิด เมื่อมีคนบางกลุ่มบิดเบือนนำไปสู่ความเกลียดชัง
หวาดระแวงต่อกัน
เมื่อวันที่
26 มิถุนายน 2559 เหตุการณ์คนร้ายยิง นายอับดุลเลาะ โด อายุ 56 ปี
โต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิดดารุนมูไฮมี เสียชีวิต
ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์บริเวณหน้ามัสยิสตาแกะ บ้านกุหมัง หมู่ 4 ตำบลตาแกะ
อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี
ความจริงที่ถูกบิดเบือนในสื่อสังคมออนไลน์กล่าวหาว่าเป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่รัฐ
มีการกล่าวอ้างว่าเดือนรอมฎอนเป็นเดือนที่บริสุทธิ์
เหตุที่เกิดขึ้นไม่ใช่ฝีมือมุสลิม
ผู้ที่อยู่เบื้องหลังคือหน่วยงานความมั่นคงที่ลอบทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์
นั่นคือแผนการโฆษณาชวนเชื่อของกลุ่มขบวนการที่ต้องการใส่ร้ายเจ้าหน้าที่ด้วยการฆ่าผู้นำศาสนาแล้วกล่าวหาเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ
ผลการตรวจสอบวัตถุพยานทางนิติวิทยาศาสตร์ของศูนย์พิสูจน์หลักฐาน
10 ศูนย์นิติวิทยาศาสตร์จังหวัดชายแดนภาคใต้ จากการตรวจรองกระสุนปืนรีวอลเวอร์
ขนาด .38 ที่ตกในที่เกิดเหตุ
พบว่ามีความเชื่อมโยงคดีในสารบบที่คนร้ายเคยทำก่อเหตุมาแล้วถึง 17 คดี
มีผู้เสียชีวิต 15 ราย นับตั้งแต่ปี 2547 ถึงปัจจุบัน
ส่วนคดีสำคัญที่เชื่อมโยงคนร้ายกลุ่มนี้คือ เหตุการณ์เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2556
ได้มีคนร้าย 2 คน ขับรถจักรยานยนต์ประกบยิง นายยะโก๊บ หร่ายมณี
อิหม่ามประจำมัสยิดกลางปัตตานี เสียชีวิตกลางตลาด
ขณะเดินจับจ่ายซื้ออาหารในช่วงเดือนรอมฎอน
จากหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ย่อมประจักษ์ชัดว่าเหตุดังกล่าวเป็นฝีมือของกลุ่มโจรใต้นอกรีต
นอกศาสนาฆ่าได้ไม่เว้นแม้กระทั่งผู้นับถือศาสนาเดียวกัน
โดยเฉพาะเดือนรอมฎอนเพื่อหวังผลจากการสร้างสถานการณ์
ปลุกระดมหาแนวร่วมให้เกลียดชังเจ้าหน้าที่และรัฐบาลไทย
เหตุการณ์เมื่อวันที่
3 กรกฎาคม 2559 เวลา 07.30 น.
ความชั่วของโจรใต้มีการซุกระเบิดบริเวณหน้าโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชยะหาเพื่อทำการก่อเหตุ
แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่ EOD
ทำการตรวจเจอและทำลายเสียก่อน
มิเช่นนั้นจะสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่เดินทางผ่านไปมาโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มาหาหมอที่โรงพยาบาล
เหตุการณ์เมื่อวันที่
3 กรกฎาคม 2559 เวลา 14.30 คนร้ายลอบวางระบิดทางรถไฟ บริเวณ
ม.4 ต.สาวอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส
ความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นเหตุให้รางรถไฟขาด
ขบวนรถไฟไม่สามารถวิ่งให้บริการประชาชนในพื้นที่ได้ ต้องหยุดให้บริการในทันที
จำนวน 6 ขบวนด้วยกัน
ประชาชนที่ใช้บริการรถไฟต่างได้รับความเดือดร้อนกันถ้วนหน้าจากการกระทำของกลุ่มโจรใต้
เมื่อวันที่ 3
กรกฎาคม 2559 เวลา 19.20 น. คนร้ายทำการลอบวางระเบิดหน้ามัสยิดกลางปัตตานี
ซึ่งเป็นระเบิดแสวงเครื่องซุกในกล่องเหล็ก ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตทันที่
1 นาย สาหัสอีก 2 นาย อีกทั้งประชาชนได้รับบาดเจ็บไปด้วยอีก 1 คน
เหตุการณ์เมื่อวันที่
3 กรกฎาคม 2559 เวลา 01.00 น.
คนร้ายลอบวางระเบิดอดีตทีมงานจ่าเพียรก่อนที่จะใช้อาวุธปืนสงครามยิงซ้ำ เสียชีวิต
2 ราย ขณะกำลังขี่รถจักรยานยนต์เดินทางออกจากมัสยิด เพื่อกลับไปพักผ่อนที่บ้าน
เหตุเกิดบริเวณสะพานข้ามคลอง บ้านบือซู หมู่ 6 ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา
ซึ่งจากการตั้งข้อสังเกตมีน้อยครั้งมากที่กลุ่มโจรใต้จะทำการสังหารประชาชนด้วยระเบิด
แต่ที่น่าหดหู่คือหลังระเบิดมีการใช้อาวุธปืนสงครามทำการยิงซ้ำ
นั่นคือความชั่วช้าสามานของไซตอนร้ายที่สิงอยู่ในร่างคน
เป็นการกระทำของคนที่ไร้ซึ่งศาสนา “เดือนรอมฏอน” เป็นเดือนแห่งการกระทำความดี
แต่กลุ่มโจรใต้สุดโต่งกลับก่อเหตุสร้างสถานการณ์ ทำลายบรรยากาศการถือศีลอด
ทำลายความสงบของศาสนิกชนที่มุ่งปฏิบัติตามหลักคำสอนของศาสนา“ความชั่ว”ที่โจรใต้กระทำในเดือนรอมฎอน เราจะต้องร่วมกันสาปแช่งต่อการกระทำดังกล่าว
ร่วมกันประณามต่อการกระทำของคนกลุ่มนี้ที่สร้างความเดือดร้อน
ไม่ต้องการให้จังหวัดชายแดนภาคใต้สงบสุข
สวนกระแสความต้องการของผู้คนส่วนใหญ่ที่อยากอยู่อย่างสันติสุข.
ที่มา: http://www.southernreports.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น