"แบมะ ฟาตอนี"
หากจะตีแผ่!! เรื่องราวการก่อเหตุของกลุ่ม ผกร.ไล่เรียงแต่ละเหตุการณ์ที่กลุ่มคนชั่วเหล่านี้ได้เหนี่ยวไกปืนสังหารเหยื่ออย่างเลือดเย็น
ย่อมมีนัยแอบแฝงซ่อนเร้นและต้องการหวังผล ซึ่งทุกเหตุการณ์มีการเตรียมการไว้ล่วงหน้าไม่ได้เกิดจากความบังเอิญเจอใครแล้วทำการก่อเหตุส่งผลต่อสังคมจิตวิทยา
และการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่แต่ละวัน
มีทั้งเกิดจากเหตุความมั่นคง ปัญหาความขัดแย้งในเรื่องส่วนตัว เรื่องผลประโยชน์
ปัญหาภัยแทรกซ้อน ยาเสพติดน้ำมันเถื่อน และปัญหาความขัดแย้งการเมืองท้องถิ่น
แต่เมื่อมีการนำเสนอโดยสื่อมวลชนออกไปภาพความรุนแรงในความรู้สึกของคนนอกพื้นที่
กลับคิดว่าเป็นเรื่องของเหตุความมั่นคงทั้งหมด
นอกจากสื่อกระแสหลักที่นำเสนอข่าวสารความรุนแรงใน
จชต.ยังมีสื่อทางเลือกที่กลุ่มแนวร่วมใช้เป็นช่องทางในการขยายผลภาพความรุนแรงไปสู่สายตาคนนอกพื้นที่
ไปยังต่างประเทศ ซึ่งสื่อทางเลือกที่กลุ่มแนวร่วมเลือกใช้คือ“สื่อสังคมออนไลน์”มีการบิดเบือนความจริง สาดโคลนความผิดให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ
จนมีการหลงเชื่อหากไร้การตรวจสอบข้อมูลรอบด้าน
การใช้“สื่อสังคมออนไลน์”ในการบิดเบือนความจริงของกลุ่มแนวร่วม
ผู้เขียนอยากยกเหตุการณ์ที่เกิดในพื้นที่ เพราะการก่อเหตุมีการเตรียมการทุกขั้นตอน
มีการโฆษณาชวนเชื่อให้ประชาชนในพื้นที่เกิดความรู้สึกร่วมและคล้อยตาม นำไปสู่การเข้าใจผิดว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ
เหตุการณ์แรก
เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน ได้เกิดเหตุการณ์เศร้าสลดคนร้ายก่อเหตุยิงเด็กนักเรียนไทยพุทธ
5 คน ที่เข้าไปหาของป่าในบริเวณป่ายางพารา ในพื้นที่หมู่ 1 ตำบลตอหลัง อำเภอยะหริ่ง
จังหวัดปัตตานี ซึ่งเหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย จากข้อมูลเบื้องลึกพบว่าทั้ง
5 คน ได้พบการเคลื่อนไหวของ ผกร.โดยบังเอิญจึงต้องปิดปาก
เป็นไปตามคาดหลังเกิดเหตุได้มีกลุ่มแนวร่วมได้สร้างกลุ่มแอพพลิเคชั่น
Line
ปลอมขึ้นมา เขียนบทสนทนาเสมือนหนึ่งเป็นการพูดคุยของเจ้าหน้าที่ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นผู้ที่ยิงกลุ่มเด็กนักเรียนไทยพุทธที่หาของป่าซึ่งเป็นฝ่ายเดียวกันเอง
โดยมีการแชร์ต่อในสื่อสังคมออนไลน์อย่างกว้างขวาง
เหตุการณ์ที่สอง
เมื่อวันที่ 21
มิถุนายน เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนลอบยิง อุสตาสอาแว เตาะสาตู
ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนบุตรชายได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณหน้ามัสยิดภายในโรงเรียนมูลนิธิชุมชนอิสลาม
บ้านปะแดลางา หมู่ที่ 5 ตำบลตะลุปุโย อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี
เหตุการณ์นี้เป็นเหตุสะเทือนขวัญคนร้ายกระทำการอย่างอุกอาจ
ที่สำคัญผู้เสียชีวิตเป็นผู้นำศาสนาที่มีผู้เคารพนับถือจำนวนมาก
หลังเหตุการณ์ผ่านพ้นไม่กี่ชั่วโมง
สื่อแนวร่วมรีบออกมาชี้นำทางความคิดในทันทีทันใดกล่าวหาเป็นการปฏิบัติการของ“ทีมงูเต๊ะ”ของเจ้าหน้าที่รัฐที่ตามเก็บปลิดชีพประชาชนปัตตานี
โดยเฉพาะผู้นำทางศาสนา ซึ่งจากการกระทำดังกล่าวเป็นความพยายามสร้างความแตกแยก
สร้างรอยร้าวให้เกิดขึ้นระหว่างพี่น้องไทยพุทธ-ไทยมุสลิม จากข้อมูลเชิงลึกชี้ว่า“อุสตาสอาแว”ท่านมีผลงานดีและ
โดดเด่นเกินไปทำให้นายใหญ่หัวหน้าขบวนการไม่พอใจ
เหตุการณ์ที่สาม
เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2560 เหตุคนร้ายยิงเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน และราษฎรเสียชีวิต
3 ราย ในเขตพื้นที่ อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี ซึ่งคนร้ายทำการก่อเหตุบริเวณตลาดนัด
หมู่ที่ 3 บ้านตาเบ๊ะ ตำบลลางา อำเภอมายอ และตลาดนัด หมู่ที่ 3 ตำบลสะกำ อำเภอมายอ
ส่วนผู้เสียชีวิตอีกรายคนร้ายตามประกบยิงหลังเลิกเล่นฟุตบอลแล้วขับขี่จักรยานยนต์กลับบ้านพัก
เหตุการณ์นี้ต้องการดิสเครดิตเจ้าหน้าที่รัฐว่า“แม้แต่ตัวเองยังปกป้องไม่ได้”
จะเห็นได้ว่ารูปแบบการก่อเหตุของกลุ่ม
ผกร.มีการสั่งการที่ชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำร้ายพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์
ผู้นำทางศาสนา แล้วมีการหลอกลวงและโฆษณาชวนเชื่อ
บิดเบือนข้อเท็จจริงผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ในขณะที่กลุ่มแนวร่วมที่แอบแฝงอยู่ในองค์กรภาคประชาสังคมบางคน
ได้พยายามเคลื่อนไหวสอดรับเพื่อโยนผิดให้เห็นว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐอีกทางหนึ่ง
พี่น้องได้มองเห็นความต้องการของกลุ่ม
ผกร.ว่าต้องการ...อะไร? โดยเฉพาะการฆ่าคนและผลประโยชน์ที่จะได้รับ ในเมื่อทุกวันนี้ยังมีกลุ่มผู้ไม่หวังดี
ซึ่งเป็นแนวร่วมยังคงพยายามปลุกปั่นทางความคิด มุ่งทำลายความน่าเชื่อถือต่ออำนาจรัฐ
และทำลายภาพลักษณ์ของประเทศอย่างต่อเนื่อง มุ่งสร้างความแตกแยกในเรื่องของเชื้อชาติ
ศาสนา การอยู่ร่วมกันอย่างสันติในสังคมพหุวัฒนธรรม จึงให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณในการบริโภคข้อมูลข่าวสารให้รอบด้าน
มิเช่นนั้นแล้วจะตกเป็นเหยื่อของกลุ่มอาชญากรแผ่นดิน.
---------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น