8/28/2560

“ซะกาต” ของประชาชน กลุ่มขบวนการตอบแทนด้วยการคาร์บอมบ์

"RUSLAN"

ซะกาต ภาษาอาหรับ: زكاة หรือ ทานประจำปี หมายถึงทรัพย์สินส่วนเกินจำนวนหนึ่ง ซึ่งมุสลิมต้องจ่ายให้แก่ผู้ที่มีสิทธิได้รับเมื่อครบรอบปี ถ้ามุสลิมคนใดมีทรัพย์สิน เงินทอง สินค้าที่เหลือในรอบปีแล้วไม่ทำการบริจาค ผู้นั้นก็ผู้หนึ่งที่ทำผิดบัญญัติของอิสลาม

โทษของผู้ที่ปฏิเสธไม่ยอมจ่ายซะกาต ใคร? ที่ไม่ยอมจ่ายซะกาตโดยปฏิเสธการวาญิบของมัน ในขณะที่เขารู้กฎของมันดีถือว่าเขาเป็น กาฟิร ต้องทำการเก็บซะกาตจากเขา และต้องโทษประหารหากเขาไม่กลับตัวเตาบัตเพราะเขาได้ตกจากศาสนาแล้ว แต่หากเขาไม่ยอมจ่ายเพราะความตระหนี่ถือว่าไม่ตกจากศาสนา และต้องทำการจัดเก็บจากเขาพร้อมกับลงโทษด้วยการยึดทรัพย์ของเขาครึ่งหนึ่ง

ที่กล่าวมาคือบทบัญญัติของศาสนาอิสลามในการจ่ายซะกาตและบทลงโทษของผู้ที่ไม่ยอมจ่าย ผิดบทบัญญัติของศาสนา ซึ่งมุสลิมที่ดีจะต้องปฏิบัติตาม และหากไม่ปฏิบัติยังถือว่าเป็นการผิดกฎหมายในบางประเทศที่ใช้กฎหมายอิสลาม ส่วนในประเทศไทยของเราพี่น้องมุสลิมจะต้องจ่ายทั้งซะกาตและเงินภาษีให้กับรัฐ

จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทยคนส่วนใหญ่ต่างนับถือศาสนาอิสลาม และเป็นพื้นที่เกิดปัญหาความไม่สงบจากกลุ่มที่คิดต่างจากรัฐทำการก่อเหตุสร้างสถานการณ์ ตลอดจนมีการปลุกระดม บ่มเพาะ เพื่อแย่งชิงมวลชนเข้าร่วมเป็นสมาชิกขบวนการ โดยอาศัยความเป็นมลายู การนับถือศาสนา เชื้อชาติ รวมถึงประเพณีวัฒนธรรม และอัตลักษณ์เดียวกัน จึงง่ายต่อการชักนำสร้างความรู้สึกร่วมให้ผู้คนเหล่านั้นต่อต้านอำนาจรัฐ

สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่กลุ่มขบวนการบีอาร์เอ็นใช้ได้ผลตลอดระยะเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมาคือประเด็นในเรื่องของศาสนา อาศัยความละเอียดอ่อนในเรื่องของความรู้สึกต่อความคิด ความเชื่อ ความศรัทธาของผู้ที่นับถือ นำไปสู่การบิดเบือนหลักคำสอนศาสนาให้กลุ่มสมาชิกแนวร่วมหลงเชื่อ โดยอาศัยผู้นำศาสนาที่ผู้คนเคารพนับถือ อิหม่าม อุสตาส ในการใส่ข้อมูลผิดๆ บ่มเพาะจนกระทั่งคนเหล่านั้นเห็นถูกเป็นผิด ยอมถวายตัวลงมือก่อเหตุและเข้าใจว่าสิ่งที่ตัวเองทำอยู่นั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องฆ่าคนแล้ว ได้บุญ ไม่บาป เป็นการต่อสู้เพื่อศาสนากำจัดผู้รุกรานแผ่นดินเกิด

กลุ่มขบวนการบีอาร์เอ็น ได้อาศัยบทบัญญัติศาสนาอิสลามในการแสวงประโยชน์จากการจ่ายซะกาตหลายท่านคงได้ยินได้ฟังมาว่าในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มีการจัดเก็บเงินซะกาตจากพี่น้องมุสลิมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งเป็นพลเมืองส่วนใหญ่ บาทต่อคน ซึ่งในความคิดของใครหลายคนอาจจะคิดว่าเงิน 2 บาทเล็กน้อยมาก เราเองก็สงสัยมานานเหมือนกันว่าเป็นความจริงหรือไม? อย่างไร? แต่ได้เพียงเก็บความสงสัยนั้นไว้ในใจ จนกระทั่งได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนพูดคุยกับผู้ที่คร่ำหวอดปฏิบัติงานอยู่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีข้อมูลความจริงครบถ้วนอยู่ในมือ และแล้ว..ถึงบางอ้อ!!!..แท้จริงแล้วกลุ่มขบวนบีอาร์เอ็นนำเงินที่ได้จากการบริจาคนั้นไปใช้ทำอะไร?

ไม่น่าเชื่อว่าเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มตน ขบวนการบีอาร์เอ็นกล้าที่จะบิดเบือนหลักศาสนา ไม่มีความย่ำเกรงต่อพระเจ้า ไม่เกรงกลัวต่อบาป นำเงินจากการบริจาคซะกาตของพี่น้องมุสลิมไปใช้ผิดประเภทผิดหลักศาสนา ผิดอย่างไร? เรามาดูข้อมูลกัน

การแสวงผลประโยชน์ของกลุ่ม BRN ซึ่งนับวันยิ่งเด่นชัดขึ้นทุกที เค้าลางความชั่วร้ายที่เห็นจางๆ ในอดีต กลับเริ่มปรากฏกายให้เห็นชัดขึ้นท่ามกลางกลิ่นควันปืนและเสียงระเบิด หากเราเสพข่าวในสื่อต่างๆ จะเห็นว่าความรุนแรงก็ยังคงปรากฏแทบทุกวันกลุ่มแสวงผลประโยชน์ของกลุ่ม BRN ยังคงคร่าชีวิตคนอย่างไร้อุดมการณ์ หวังเพียงความสุขสบายของกลุ่มตนอย่างเช่นล่าสุดกลางเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา เหตุคนร้างปล้นรถมือสองเพื่อนำไปประกอบระเบิดและได้สร้างผลกระทบต่อพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผลกระทบที่เกิดขึ้นคือ เสียงโอดโอยของผู้บาดเจ็บ เสียงร่ำไห้ของผู้สูญเสีย หรือว่าสิ่งเหล่านี้เป็นกลอุบายที่กลุ่มผลประโยชน์ต้องการการสร้างกระแสให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ร่วมบริจาคเงินเพื่อนำไปก่อเหตุ ความเชื่อมโยงของกลุ่มขบวนการบีอาร์เอ็นกับเครือข่ายค้ายาเสพติด ผู้ลักลอบสินค้าหนีภาษี น้ำมันเถื่อน ซึ่งเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้กับขบวนการ ในการจัดซื้ออาวุธ อุปกรณ์ผลิตวัตถุระเบิดกลับมาเข่นฆ่าประชาชน มีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง หรือกระทั่งแม้แต่การเรี่ยไร หรือขอรับเงินบริจาค เพื่ออ้างนำไปสร้างมัสยิดเพื่อใช้ประกอบศาสนกิจ หรือสถาบันการศึกษาทางศาสนาปอเนาะ กลับพบว่ามีเงินทุนที่ได้รับจากการบริจาคทั้งในพื้นที่เอง และจากต่างประเทศเป็นจำนวนมาก จากการบอกเล่าของคนในพื้นที่ได้ให้ข้อมูลว่าเงินเหล่านี้บางส่วนมีการนำไปสร้างหรือใช้งานจริง แต่เงินบางส่วนได้ส่งให้กลุ่มขบวนการบีอาร์เอ็นนำเงินไปจัดซื้อหาอาวุธ อุปกรณ์ผลิตระเบิด อีกทั้งเป็นค่าจ้าง ค่าเลี้ยงดูผู้ก่อเหตุรุนแรงที่หลบหนีเงื้อมมือของกฎหมาย

ยังไม่นับรวมถึงเงินที่ได้รับการบริจาคซะกาตของพี่น้องมุสลิม แกนนำกลุ่มขบวนการกลับเอาไปใช้ส่วนตัว เสวยสุขสำราญอยู่ดีกินดียังต่างประเทศ รวมทั้งมีการนำไปสร้างบ้านใหม่ ซื้อรถใหม่ให้กับตัวเองญาติพี่น้องในเมืองไทย ซึ่งผิดหลักศาสนาอย่างร้ายแรง ที่นำเงินบริจาคซะกาตไปใช้ในทางที่ผิดถือว่าเป็นบาปหนัก

ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นมานานหลายสิบกว่าปี คนที่ตั้งใจบริจาคซะกาตมีความคิดดี แต่คนคิดชั่วกลับนำบริจาคซะกาตไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ลองคำนวณเล่นๆ กันดูค่ะว่าเงินบริจาคที่พี่น้องมุสลิมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ร่วมกันซะกาต” 2 บาทต่อคน ซึ่งกลุ่มขบวนการบีอาร์เอ็นนำไปใช้รวมแล้วร่วมๆ เกือบ 200 ล้านกว่าบาทต่อปี แต่เงินที่รับบริจากกลับมาซ้ำเติมปัญหาด้วยการก่อเหตุ ยิงฆ่าประชาชนในพื้นที่ ตลอดจนระเบิดรายวัน ไม่ให้มอดดับเพื่อผลประโยชน์ของแกนนำเพียงไม่กี่คน แล้วปัญหาความเดือดร้อนทั้งปวงตกอยู่ที่ใคร? คงหนีไม่พ้นพี่น้องมุสลิมในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้เองที่ต้องตกเป็นเหยื่อที่ถูกกระทำ นำไปสู่ความเดือดร้อนที่กลุ่มขบวนการบีอาร์เอ็นหยิบยื่นให้....จากเงินบริจาคซะกาตของประชาชน กลุ่มขบวนการตอบแทนด้วยความสูญเสียนั้นเอง....


-----------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น