"Ibrahim"
จับกุมคนร้ายตามหมายจับ
แต่งกายคล้ายหญิงเหตุกราดยิง จนท.ตำรวจ รปภ.สถานีรถไฟ เหตุการณ์วันเดียวกับบุกยึด
รพ.เจาะไอร้อง นำตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากเหตุการณ์คนร้ายป่วนนราธิวาส 3 จุด
ทำการยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ นปพ.นราธิวาสที่ 31 ชป.รปภ.สถานีรถไฟ อ.เจาะไอร้อง เมื่อ
13 มี.ค.59 ซึ่งเป็นคราวเดียวกันที่คนร้ายบุกยึดโรงพยาบาลเจาะไอร้องจับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล
แล้วทำการกราดยิงฐานปฏิบัติการร้อย ทพ.4816 กรมทหารพรานที่ 48 ซึ่งอยู่ติดกับโรงพยาบาลเจาะไอร้อง
และทำการลอบวางระเบิดแสวงเครื่องที่บรรจุใส่ไว้ในถังแก็สปิคนิคหนัก 20
ก.ก.ที่นำไปวางไว้เสาคอสะพานบ้านยานิง
เมื่อ 16 พ.ย.59 เวลา 04.00 น.
หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินทหารเรือ 33 (ฉก.นย.ทร.33) สนธิกำลังกับ นปข.ฉก.นย.ภต.
เข้าทำการตรวจสอบเป้าหมายในพื้นที่ ต.บางปอ อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส เพื่อบังคับใช้กฎหมายในการติดตามจับกุมบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดนราธิวาส
ผลการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัว
นายอาดือนันต์ บือราเฮง ตามหมายจับ ป.วิอาญา 189/59 ลง 6 เม.ย.59 ที่อยู่ 18/1 ม.3
ต.บางปอ อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นสมาชิกระดับปฏิบัติการเคลื่อนไหวในพื้นที่
ต.บางปอ อ.เมืองนราธิวาส
นายอาดือนันต์ บือราเฮง มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุ
โดยมีคนร้ายจำนวน 4 คน ทำการขับขี่รถจักรยานยนต์ 2 คันเป็นพาหนะ
ใช้อาวุธปืนสงครามยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ นปพ.นราธิวาสที่ 31
ซึ่งเป็นชุด รปภ.สถานีรถไฟเจาะไอร้อง แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนคนร้ายหลังก่อเหตุก็อาศัยความชำนาญพื้นที่หลบหนีไป
ภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพไว้ได้
นายอาดือนันต์ บือราเฮง และสมาชิก ผกร.อีก 3 คน ได้แต่งกายคล้ายหญิง มีผ้าคลุมใบหน้าเพื่อปิดบังอำพรางซ่อนเร้นกาย
ลงมือทำการก่อเหตุ โดย นายอาดือนันต์ฯ ได้นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์คันที่สองใช้อาวุธปืนสงครามทำการกราดยิงใส่เจ้าหน้าที่
จะเห็นได้ว่ากลุ่ม
ผกร.มักแต่งกายคล้ายผู้หญิง หรือแม้กระทั่งแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่เพื่อทำการตบตาให้รอดพ้นจากการตรวจตราตามด่านตรวจ
และจุดสกัดต่างๆ การกระทำเช่นนี้มิใช่การหลงผิด แต่เป็นความตั้งใจที่จะลงมือก่อเหตุโดยมีการวางแผนมาเป็นอย่างดี
การบังคับใช้กฎหมายเพื่อนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีลงโทษตามกฎหมาย
บ่อยครั้งที่การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาและมีบรรทัดฐานเดียวกัน
ปฏิบัติอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน
แต่ยังมิวายที่ถูกโจมตีจากองค์กรภาคประชาสังคมบางองค์กร บางกลุ่มที่ทำการเคลื่อนไหวสนับสนุนเพื่อทำการช่วยเหลือคนร้าย
ช่วยเหลือขบวนการให้พ้นผิด พ้นมลทินจากสังคม
ความจริงคือความจริงมิได้มีการสาดโคลนโยนผิดให้กับผู้ต้องหาตามหมายจับเหล่านี้
ว่าไปตามหลักฐานวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ ไม่เหมือนกับสื่อบางสำนัก
องค์กรภาคประชาสังคมเถื่อนถ่อยบางองค์กรที่มักชอบบิดเบือนข้อเท็จจริง
มุ่งนำเสนอข่าวเชิงลบที่สร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในสังคม
ผู้ที่กระทำความผิดไม่ช้าหรือเร็วจะต้องโดนจับดำเนินคดีตามกฎหมาย
จะต้องรับสภาพกับผลกรรมที่ตัวเองได้ก่อ มีอยู่จำนวนไม่น้อยที่ถูกทอดทิ้งจากลุ่มขบวนการไร้ซึ่งการเหลียวแล
ต้องอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ อดมื้อกินมื้อ
คนที่ฉลาดเท่านั้นที่คิดได้ว่าที่ผ่านมาทำไปเพื่ออะไร?
แต่สำหรับคนโง่แล้วจะต้องตกเป็นเหยื่อของคนฉลาดอยู่ร่ำไปหากยังคิดไม่ได้จงรับกรรมต่อไป...แต่ผลกรรมนั้นไม่ได้ตกอยู่ที่คนๆ
เดียว ครอบครัวจะต้องพลอยตกระกำลำบากไปกับผลการกระทำของเราด้วย..อามีน
-------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น