‘แบดิง
โกตาบารู'
นายจอม
เพชรประดับ Thai voice media สื่อกีฬาสีที่หลบลี้หนีภัยอยู่ต่างประเทศ
สัมภาษณ์ข้ามทวีปผ่านแอปพลิเคชั่น Skype คนหนึ่งคือสื่อบ่อนทำลายประเทศชาติ
อีกคนหนึ่งองค์กรภาคประชาสังคมที่คิดการใหญ่ต้องการเอกราช
แยกตัวนครรัฐปัตตานีออกจากผืนแผ่นดินไทย
เมื่อคนสุดโต่งมาเจอกัน
มันช่างเหมาะเจาะลงตัวสุดกระดิ่งติ่งเหวฉุดกันลงนรกอเวจี แค่การพาดหัวข่าว
"ครม.ส่วนหน้า"
ทหารคิด..ทหารทำ.จุดจบของ"สันติสุข"จังหวัดชายแดนใต้ ก็เกินขนาดแล้ว
นายตูแวดานียา
ตูแวแมแง ผู้อำนวยการสำนักปาตานีรายาเพื่อสันติภาพและการพัฒนา
เครือข่ายภาคประชาสังคมในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้สัมภาษณ์ Thaivoicemedia
เกี่ยวกับการที่ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีการตั้ง
ครม.ส่วนหน้า เป็นคณะทำงานชุดพิเศษเพื่อแก้ปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
ซึ่งเป็นข้าราชการและเป็นทหารทั้งหมดว่า ไม่ตอบโจทย์ที่จะสร้างความเข้าใจ
หรือแก้ปัญหาให้กับประชาชนในพื้นที่ ทั้งมิติด้านเศรษฐกิจที่จะพัฒนาจังหวัดภาคใต้ให้มีความมั่งคั่ง
มั่นคง และมิติทางการเมืองที่จะสร้างสันติภาพหรือสันติสุขให้เกิดขึ้น เพราะกองทัพ
คือคู่กรณีของชาวบ้าน และเป็นศัตรูทางการเมืองของขบวนการก่อความรุนแรง
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ทหารได้สร้างบาดแผลในความรู้สึกของประชาชนที่ลึกมาก
แล้วจะให้เป็นผู้สร้างความสุขสงบสันติ เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก
และประชาชนยอมรับไม่ได้
แต่จะเป็นเงื่อนไขที่จะสร้างความหนักหน่วงให้เกิดความรุนแรงในอนาคต เชื่อว่า
ครม.ส่วนหน้าของทหาร
จะสร้างความชอบธรรมให้ขบวนการก่อความรุนแรงใช้เป็นข้ออ้างในการใช้ความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น
ตลอดระยะเวลาประมาณครึ่งชั่วโมงของการสัมภาษณ์
ซัยตอน 2 ตน ได้มีการโยน มีการรับลูก
มีการชี้นำเชื่อมโยงเพื่อบ่อนทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนต่อรัฐบาลในการแก้ปัญหาไฟใต้
นายตูแวดานียา
ตูแวแมแง กล่าวว่า กรณีการเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบกว่า 20
จุด ในพื้นที่ 3 จชต.เมื่อวันที่ 2
พ.ย.ที่ผ่านมา เป็นการรักษาสถานะทางการเมืองในการต่อสู้ของกลุ่มขบวนการ
ต่อเป้าหมายการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่ ถึงแม้การใช้ความรุนแรงด้วยกิจกรรมทางอาวุธ
แต่เป็นการใช้เพื่อส่งสัญญาณที่มีนัยทางการเมือง เป็นความชอบธรรมของกลุ่มขบวนการ
แปลกแต่จริงกลุ่มองค์กรภาคประชาสังคม
ปีกการเมืองของกลุ่มขบวนการส่วนใหญ่จะออกมาปกป้องการกระทำอันชั่วร้ายของซัยตอนด้วยกัน
ถึงแม้จะสุดโต่งแค่ไหน..เข่นฆ่าผู้คนไปเท่าไหร่แต่กลับเห็นว่ามีความชอบธรรมในการกระทำความชั่วทั้งมวล
หรือศาสนาได้บัญญัติคำสอนใหม่ การฆ่าคนไม่เป็นบาป
แต่ได้บุญได้ขึ้นสวรรค์ไปพบพระเจ้าก็ไม่รู้
ยังกล่าวหาว่าการใช้กฎหมายพิเศษที่ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ทหาร
ตำรวจ นำไปสู่การละเมิดสิทธิมนุษยชนในห้วงที่ผ่านมา กฎหมายรองรับไม่ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำ
แต่เมื่อมีการตั้งคำถามถึงกลุ่มขบวนการที่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนกลับเลี่ยงคำถามและไม่ตอบเสียดื้อๆ
แล้วจะให้คิดได้อย่างไรว่าพวกองค์กรภาคประชาสังคมสุดโต่งหลายองค์กรที่เคลื่อนไหวอยู่
ไม่ใช่พวกเดียวกันกับกลุ่มขบวนการโจรใต้ล่ะ
จากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
นายตูแวดานียาฯ
กลับกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ทหารเป็นผู้ที่ใช้ความรุนแรงโดยตรงในการต่อสู้ไม่รู้เอาสมองส่วนไหนมาคิด
จะบิดเบือนข้อเท็จจริงกันไปถึงไหน ระเบิดตูมๆๆ
ไล่เข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์อยู่ทุกเมื่อเชื่อวันเป็นฝีมือเจ้าหน้าที่รัฐหรอกหรือ?
ช่างน่าชังสิ้นดีกับสมองอันน้อยนิด สมองที่มีอคติ เอนเอียง
มองผิดเป็นถูก มองถูกเป็นผิด ไอ้คนพวกนี้เป็นคนจำพวกสมองกลับ
นายตูแวดานียาฯ
ยังมีกล่าวโจมตีการพัฒนาพื้นที่ 3 เหลี่ยมเศรษฐกิจ
ว่าประชาชนไม่เห็นด้วย เพราะการดำเนินการโครงการต่างๆ ของรัฐ จะมีผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่
จะเห็นถึงความจริงใจและหน้ากากที่แท้จริงของเหลือบริ้นไรในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ในขณะที่รัฐให้ความจริงใจเดินหน้าพัฒนาเศรษฐกิจ
พัฒนาพื้นที่เพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ให้มีความอยู่ดีกินดี
แต่กลุ่มขบวนการและบรรดาองค์กรภาคประชาสังคมซึ่งเป็นปีกการเมืองของกลุ่มขบวนการกลับแอบอ้างประชาชนไม่ต้องการ
แท้จริงแล้วเมื่อประชาชนต่างอยู่ดีกินดี มีการพัฒนาในทุกๆ ด้าน
กลุ่มขบวนการกลัวเสียมวลชนมากกว่า
ประเด็นคำถาม
กลุ่มขบวนการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อประชาชนในพื้นที่ 3
จชต.อย่างกว้างขวาง นายตูแวดานียา กลับให้ความเห็นว่าผู้ที่เสียหายคือรัฐ
ในฐานะให้ความดูแลในเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
ไม่มีหลักประกันความปลอดภัย ความมั่นคงให้กับประชาชน
แต่กลับไม่ยอมกล่าวถึงการกระทำที่สุดโต่งของกลุ่มขบวนการโจรใต้แต่ประการใด
อีกทั้งในแต่ละเหตุการณ์ที่เกิดความสูญเสียนายตูแวดานียา
ยังตั้งคำถามว่ามาจากฝีมือของใคร? เป็นกลุ่มขบวนการจริงหรือเปล่า
นี่คือความรู้สึกของผู้ที่เป็นแกนนำทางความคิดซึ่งเป็นปีกการเมืองสนับสนุนกลุ่มขบวนการ ความพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงทุกรูปแบบ
แต่ทุกวันนี้จากการพิสูจน์หลักฐานทางคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความชัดเจน
เที่ยงธรรมและบ่งชี้ได้ว่าเป็นการกระทำของกลุ่มขบวนการแทบทั้งสิ้นในการก่อเหตุ
ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐที่มักมีการแอบอ้าง
แต่คดีใดที่มีเงื่อนงำไม่สามารถพิสูจน์ได้จะโยนผิดให้กับเจ้าหน้าที่รัฐเป็นผู้กระทำ
พร้อมๆ กับการเคลื่อนไหวกล่าวหามีการทำลายอัตลักษณ์วัฒนธรรมในพื้นที่
มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน แอบอ้างการไม่ได้รับความเท่าเทียมในการบังคับใช้กฎหมาย
อีกทั้งไม่ได้รับการสนับสนุนในการนับถือศาสนา
ซึ่งในความเป็นจริงไม่ได้เป็นอย่างที่กลุ่มคนเหล่านี้พยายามสื่อสารต่อสังคมใดๆ
เลย..
-------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น