‘แบดิง โกตาบารู’
อุทาหรณ์สอนใจผู้หลงผิดไว้เป็นบทเรียน
เมื่อมีผู้รู้เท่าไม่ถึงการณ์ได้เข้าสู่วังวนความชั่วร้าย กลับถูกหลอกใช้โดยแกนนำกลุ่มขบวนการให้ทำการก่อเหตุเพื่อสร้างความปั่นป่วน
ความวุ่นวาย ลอบทำร้ายชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์ ต้องมีบาปติดตัว อีกทั้งจะต้องซ่อนตัว
หลบหนีความผิดกลัวถูกเจ้าหน้าที่จับกุมอย่างหัวซุกหัวซุน ต้องอดอยากปากแห้งอยู่อย่างน่าเวทนาอดมื้อกินมื้อ
ไม่ต้องพูดถึงคราวเจ็บป่วยไม่สบายหรือบาดเจ็บจากการปะทะไม่กล้าเข้าโรงพยาบาล..แม้กระทั่งหยูกยายังไม่มีจะรักษาตัว
จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจยะลา รับมอบตัว
นายสาการียา แวกาจิ แกนนำระดับสั่งการกลุ่มอาร์เคเค ข้อหาร่วมกันก่อการร้าย
เผาสถานที่ราชการ เผย ถูกเจ้าหน้าที่ไล่ล่าต้องหนีออกนอกพื้นที่ โอดใช้ชีวิตลำบาก
อดมื้อกินมื้อ จนครอบครัววอนให้เข้ามอบตัว...
เมื่อวันที่ 15 พ.ย.59 พ.ต.อ.กฤษฎา
แก้วจันดี รรท.ผบก.ภ.จ.ยะลา พ.ต.อ.ญาณพงศ์ อุบลบาน ผกก.สภ.กาบัง นายวีรยุทธ
เหล็มเล๊าะ ปลัดอาวุโสอำเภอกาบัง รรท.นายอำเภอกาบัง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
ร่วมกันรับมอบตัว นายสาการียา แวกาจิ อายุ 33 ปี ชาวบ้านคลองปุด ต.บาละ อ.กาบัง
ซึ่งเป็นแกนนำอาร์เคเค ระดับสั่งการ มีหมายจับ ป.วิอาญา ที่ จส.381/2550 ลงวันที่
26 กันยายน 2550 และหมายจับที่ จส. 122/2552 ลงวันที่ 27 มีนาคม 2552
ข้อหาร่วมกันก่อการร้าย วางเพลิงสถานที่ราชการ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ทางราชการไม่สามารถออกใบอนุญาต
โดยมี นายยะฟาร์ ยะโก๊ะ กำนันตำบลบาละ พร้อมพ่อแม่ญาติพี่น้องเป็นผู้นำตัวมามอบ
นายสาการียา แวกาจิ ได้เปิดเผยว่า
หลังจากตนได้ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีเกี่ยวกับความมั่นคง
ถูกเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายออกไล่ล่าติดตามจับกุมตัว แต่ตนเองได้หลบหนีออกนอกพื้นที่
ไปอาศัยอยู่กับเพื่อนๆ ต้องทนทุกข์ต่อความยากลำบากอยู่ตลอดเวลา
อยู่แบบอดมื้อกินมื้อ เพราะต้องคอยหลบซ่อน หลบหนีการปิดล้อมจับกุมมาโดยตลอด
ประกอบกับทางครอบครัว ตลอดจนญาติพี่น้องได้อ้อนวอนขอให้เข้ามอบตัว
จึงได้ติดต่อนายยะฟาร์ ยะโก๊ะ กำนันตำบลบาละ อำเภอกาบัง จังหวัดยะลา
ให้ช่วยประสานนำตัวเดินทางมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่
นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งของผู้ที่กระทำความผิดแล้วต้องหลบหนีไป
ไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างปกติสุขเยี่ยงคนทั่วไป ไม่มีโอกาสได้อยู่ร่วมกับครอบครัวอยู่พร้อมหน้า
พ่อแม่ลูก เพราะเจ้าหน้าที่รัฐจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายติดตามตัวมาลงโทษดำเนินคดี
มิเช่นนั้นหากปล่อยปละละเลยก็เท่ากับว่ากฎหมายไม่มีความศักดิ์สิทธิ์
การบังคับใช้กฎหมายที่ไม่เท่าเทียม บ้านเมืองไม่มีขื่อมีแป
ที่น่าสลดใจเป็นอย่างยิ่งคือผู้หลงผิดเหล่านี้ถูกทอดทิ้งต้องเผชิญชีวิตความทุกข์ยากตามยถากรรม
ไม่ได้รับการดูแลจากแกนนำสั่งการ ซึ่งตัวเองกลับเสวยสุขอยู่เมืองนอก
อยู่อย่างสบายอย่างพระราชา แต่นักรบอาร์เคเคเหล่านี้ล่ะ ต้องอยู่อย่างลำบากอดมื้อกินมื้อน่าอนาถใจ
แล้วอย่างนี้ยังจะเป็นทาสรับใช้กลุ่มขบวนการอยู่อีกหรือ?..บ้านต้องแตกสาแหรกขาด
ชีวิตไร้สุขมีแต่ความทุกข์ประดังเข้ามาในชีวิต ต้องตายหรือไม่ก็ติดคุกขาดอิสรภาพลูกเมียใคร?
จะดูแล
------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น